“สมชัย” แสดงความเห็นเกี่ยวกับดิจิทัล วอลเล็ต
เท่าที่ติดตามข่าวก็ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานและงบประมาณที่ใช้ ผมคงไม่ตอบว่าควรทำหรือไม่ควรทำหรือว่าดีหรือไม่ดี แต่อยากเสนอข้อคิดให้กับคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการที่กำลังดำเนินการศึกษาและเสนอแนวทางในการดำเนินนโยบายนี้
เพื่อคิดให้ครอบคลุมทุกองคาพยพแล้วก็ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการใช้งบประมาณและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางการคลังและ เสี่ยงต่อการทำผิดวินัยการเงินการคลัง ก่อนอื่นต้องตกผลึกให้ได้ก่อนว่า นโยบายนี้มีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายหลักคืออะไรเช่นตามที่ผมฟังมา รัฐบาลต้องการใช้นโยบายนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น
ดังนั้นก็ต้องตั้งคำถามว่า ถ้าต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วและให้มีการหมุนของเงินเร็ว กลุ่มประชาชนกลุ่มใดที่สามารถตอบสนองต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไว คำตอบก็คือกลุ่มประชาชนที่มีรายได้น้อยเพราะกลุ่มประชาชนรายนี้กลุ่มนี้เมื่อได้เงินเป็นเงินสดหรือเงินดิจิตอลไปก็จะมีแนวโน้มในการใช้เงินทั้งหมดเลยและใช้ด้วยความรวดเร็วในการบริโภคอุปโภคบริโภค ส่วนน้อยที่จะนำไปใช้ในการต่อยอดรายได้เพื่อการลงทุนและประกอบอาชีพ การแจกเงินดิจิตอลให้กับทุกคนที่มีมีอายุมากกว่า 16 ปีจึงไม่น่าจะเป็นการตอบโจทย์ในการที่รัฐบาลต้องการใช้นโยบายนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น
หากรัฐบาลต้องการดำเนินนโยบายนี้เพื่อเป้าหมายนี้จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินงบประมาณมากถึง 560,000 ล้านบาท รัฐบาลเพียงแต่แจกเงินดิจิตอลให้กับกลุ่มฐานรากหรือกลุ่มที่มีรายได้น้อยน่าจะเพียงพอแล้ว ทำให้ใช้เงินงบประมาณหรือการกู้เงินมาน้อยกว่าจำนวน 560,000 ล้านบาท
ประเด็นต่อมาก็คือว่าเมื่อจะกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแบบนี้ผ่านการใช้จ่ายของกลุ่มประชาชนฐานรากแล้ว ระยะเวลาหรือtiming ขณะนี้เหมาะสมหรือไม่ในการทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแบบนี้ในขณะที่เศรษฐกิจไทยปัจจุบันไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤตเหมือนเศรษฐกิจช่วงโควิดระบาด หากเศรษฐกิจปัจจุบันในช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่รัฐบาลต้องมากระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ดังนั้นทางเลือกที่ดีกว่าของรัฐบาลในการใช้เงินงบประมาณส่วนนี้ในการดำเนินนโยบายดิจิตัลวอลเล็ต ก็คือการนำเงินงบประมาณส่วนนี้ไปทำโครงการอื่นที่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาวซึ่งส่งผลต่อการต่อยอดรายได้ ต่อยอดการลงทุน เพิ่มผลิตภาพและศักยภาพการผลิตของประเทศจะดีกว่าหรือไม่
คำถามต่อไปก็คือถ้ารัฐบาลยืนยันการแจกเงินดิจิตัลให้ทุกคนอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปตามแผนที่ได้หาเสียงไว้ คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการที่กำลังศึกษาเรื่องนี้ควรจะเสนอปรับปรุงมาตรการนี้อย่างไรเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและต้องการใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลนี้ ผมขอเสนอให้คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการพิจารณาทบทวนและขยายเป้าหมายของการทำนโยบายนี้จากการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างเดียวมาเสริมด้วยการยกระดับ GDP ของประเทศ ยกระดับรายได้ของประชาชนในระยะกลางและระยะยาวไปพร้อมกันโดยการต่อยอดรายได้เน้นเรื่องการลงทุนของประชาชนกลุ่มเล็กหรือกลุ่มขนาดกลางเพื่อเพิ่มศักยภาพในการหารายได้ การประกอบอาชีพและการลงทุนของวิสาหกิจขนาดกลางที่ดำเนินการโดยประชาชนกลุ่มเล็ก
ดังนั้นเมื่อประชาชนได้เงินไปแล้วก็จะมีกลุ่มของประชาชนบางกลุ่มที่ใช้เงินเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น กลุ่มประชาชนบางกลุ่มก็จะนำเงินไปรวมตัวกันเพื่อไปต่อยอดรายได้ลงทุนเสริมรายได้เสริมอาชีพ ดังนั้นการสร้างเงื่อนไขของการใช้เงินดิจิตอลจะต้องอนุญาตให้มีการนำเงินมารวมกันเพื่อลงทุนหรือว่าเพื่อไปต่อยอดอาชีพต่อยอดรายได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะกลางระยะยาวได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น การกำหนดเงื่อนไขของการใช้เงินในระยะ 4ก.ม. และเงื่อนไขอื่นๆ ก็ต้องมีการปรับให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนและเพิ่มเป้าหมายตามที่ผมได้เสนอข้างต้น เมื่อมีการเพิ่มเป้าหมายเงื่อนไขวัตถุประสงค์เพื่อให้นำเงินดิจิตอลไปร่วมกันลงทุนต่อยอดรายได้เพิ่มขึ้นได้นั้น รัฐบาลก็ไม่ควรให้คนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป หรือกลุ่มประชาชนกลุ่มนี้คิดเองทำเองโดยปราศจากการสนับสนุนจากภาครัฐ สิ่งที่รัฐบาลต้องทำและคิดต่อให้เป็นระบบก็คือต้องมีการเตรียมองคาพยพของหน่วยงานราชการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่า กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งสถาบันการเงินและภาคธุรกิจเอกชน เพื่อมาช่วยสนับสนุนเตรียมความพร้อม เตรียมข้อเสนอแนะ เตรียมอบรมฝึกอาชีพ ช่วยเสนอแนะแนวทางการลงทุนแนวทางการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ ให้กับกลุ่มประชาชนที่มีความต้องการใช้เงินดิจิตอลในการสร้างอาชีพต่อยอดรายได้เพิ่มผลิตภาพการผลิต และการลงทุนด้วย
โดยสรุปแล้วผมมีความเห็นว่าปัจจุบันนี้รัฐบาลยังไม่ตกผลึกในการคิดนโยบายนี้ และยังไม่คิดครบทั้งระบบ ทั้งขาดความชัดเจนของแหล่งที่มาของงบประมาณที่นำมาใช้ในโครงการนี้อย่างรอบคอบและยังหวังผลเลิศเกี่ยวกับเรื่องการได้รายรับจากรายได้ภาษีที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายนี้ซึ่งในทางปฎิบัติเป็นไปได้ยากเนื่องจากเรายังมีปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบภาษีและยังขาดประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี รวมทั้งขาดความแม่นยำจากการประเมินผลการดำเนินมาตรการนี้จากส่วนเพิ่มของการเก็บภาษีและการเติบโตของรายได้จากการดำเนินนโยบายดิจิตัลวอลเล็ตนี้ ทำให้การคาดการณ์ผลการประเมินของโครงการนี้ทำได้ยากและถูกต้อง เพิ่มความเสี่ยงทางการคลัง เสี่ยงต่อการผิดวินัยการเงินการคลัง จริงๆแล้วเงินจำนวนนี้ประมาณ 560,000 ล้านบาท ถ้าวางระบบดีดีสามารถนำไปแก้ไขปัญหาความยากจนของคนไทยทั้งระบบได้เลยเช่นเดียวกับการที่ประเทศจีนได้ทุ่มงบประมาณและบุคลากรเพื่อไปแก้ไขปัญหาความยากจน หรือนำเงินก้อนนี้ไปดำเนินโครงการลงทุนอื่นที่เสริมความแข็งแกร่งและ ประสิทธิภาพการผลิตของประเทศเพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจยั่งยืน