ยอดขาย EV สะสมเฉียดแสนคัน
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตทะลุทะล่วง เดือนส.ค.
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตทะลุทะล่วง เดือนส.ค. จดทะเบียนใหม่ 9,076 คัน เพิ่มขึ้น 293.92% ส่งผลให้ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจดทะเบียนใหม่สะสม 59,025 คัน เพิ่มขึ้น 433.05%
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนส.ค.66 อยู่ที่ 87,555 คัน เพิ่มขึ้น 19.41% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 82,318.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 15.13% โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) มียอดส่งออกรวมทั้งสิ้น 724,423 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 19.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่า 617,906.67 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 12.04% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่น
“ภาวะการส่งออกยังขยายตัวต่อเนื่องได้ดี ดูจากตัวเลข 8 เดือนที่ผ่านมาแล้วคาดว่าปีนี้จะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1.05 ล้านคันแน่นอน” นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ยอดผลิตรถยนต์ในเดือน ส.ค.66 มี 150,657 คัน ลดลง 12.27% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.63% จากเดือนก.ค.66 แยกเป็น การผลิตเพื่อส่งออก 88,661 คัน เพิ่มขึ้น 1.07% ส่วนผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 30,238 คัน ลดลง 5.78% หลังยอดขายในประเทศลดลง โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะ เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.66) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,221,878 คัน เพิ่มขึ้น 3.13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ยอดผลิตรถกระบะลดลงตามยอดขายในประเทศ เนื่องจากมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อหลังสัดส่วนหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้เปิดผลิตรถยนต์ปีนี้อาจไม่ถึง 1.9 ล้านตัน” นายสุรพงษ์ กล่าว
ขณะที่ ยอดขายในประเทศเดือนส.ค.มี 60,234 คัน ลดลง 11.69% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น หลังมีการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ส่งผลให้ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มียอดขายทั้งสิ้น 524,784 คัน ลดลง 6.21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ถ้าจะให้ได้ตามเป้าต้องมียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 75,000 หคัน ขอดูเดือนหน้าอีกเดือนก่อนว่าจะปรับเป้าหรือไม่” นายสุรพงษ์ กล่าว
ส่วนยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่จำนวน 9,076 คัน เพิ่มขึ้น 293.92% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 59,025 คัน เพิ่มขึ้น 433.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ประเภท HEV จดทะเบียนใหม่จำนวน 7,106 คัน เพิ่มขึ้น 21.93% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 59,196 คัน เพิ่มขึ้น 37.37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่จำนวน 1,269 คัน เพิ่มขึ้น 28.57% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 8,518 คัน เพิ่มขึ้น 10.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยปัจจุบันมียานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV จำนวนทั้งสิ้น 90,906 คัน เพิ่มขึ้น 306.30% จากปีก่อน, ประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 318,125 คัน เพิ่มขึ้น 33.05% จากปีก่อน และประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 50,847 คัน เพิ่มขึ้น 30.98% จากปีก่อน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า แนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนเกินเป้า 40,000 คันไปแล้ว คาดว่าทั้งปีอาจมากถึง 60,000 คัน โดยมีปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นได้จากมาตรการรัฐที่จะขยายเวลาโครงการ EV 3.5 ที่โครงการเดิมจะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน นอกจากนี้ การที่นายกรัฐมนตรีได้พบกับผู้บริหารบริษัทเทสล่า หากมีการเข้ามาลงทุนจริงจะยิ่งสร้างความเชื่อถือได้ดี และจะดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจำนวนมหหาศาลเข้ามาด้วย