สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 25 สค. 66

ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนล่าง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.สกลนคร (100) จ.ตราด (77) จ.น่าน (67) จ.นราธิวาส (64) จ.เพชรบุรี (63) กรุงเทพมหานคร (49)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 44,070 ล้าน ลบ.ม. (53%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,375 ล้าน ลบ.ม. (55%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
กรมชลประทาน ดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช และสิ่งกีดขวาง
ทางน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและส่งน้ำ เพื่ออุปโภค-บริโภคและการเกษตรอย่างเต็มศักยภาพ บรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำ ในพื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกง บริเวณ จ.นครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี สะพานบางขนาก และหน้าเขื่อนบางปะกง รวมปริมาณการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำทั้งหมดประมาณ 83,600 ตัน
กอนช. ประกาศ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ฉบับที่ 15/2566 ในช่วงวันที่ 20-25 ส.ค. 66 ดังนี้ ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร อุดรธานี อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก จ.จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต สตูล ตรัง และสุราษฎร์ธานี
กอนช. ติดตามการศึกษาแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 66 นายชนพหล ส่งเสริม รองผู้ว่าราชการ จ.บึงกาฬ เป็นประธานเปิดการประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยมี นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนจากทุกภาคส่วนในพื้นที่เข้าร่วมประชุมเพื่อสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมของโครงการฯ และแผนการแก้ไขปัญหา พร้อมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและตอบข้อซักถาม รวมทั้งข้อเสนอแนะ ณ รร.เดอะวัน อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ สำหรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้จากการประชุม จะนำไปประกอบการพิจารณาผลการศึกษาฯ ให้มีความถูกต้อง สมบูรณ์ และครบถ้วนในทุกมิติด้านน้ำของจังหวัด เพื่อให้แผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ สามารถใช้เป็นกรอบและทิศทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจังหวัดบึงกาฬให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างแท้จริง ภายใต้การบูรณาการร่วมกันจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มีความสอดคล้องกับสภาพปัญหาและบริบทของพื้นที่ถึงระดับตำบล เพื่อเป็นแผนหลักในการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้ง การแก้ไขปัญหาทรัพยากรน้ำในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ที่มีความยั่งยืน ทั้งมิติด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานแบบบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลดความเสียหายจากปัญหาและภัยที่เกิดจากน้ำ อันจะเป็นการสร้างความมั่นคงด้านน้ำอุปโภคบริโภค การพัฒนาคุณภาพน้ำ การอนุรักษ์และฟื้นฟูต้นน้ำ รวมถึงการบริหารจัดการที่เหมาะสมในอนาคตต่อไปป้องกันและแก้ไขปัญหาความเสี่ยง การขาดแคลนน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญในระยะยาวต่อไป

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ดังนี้
- ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 15/2566 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2566 แจ้งเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ด้วย กอนช. ได้ติดตามสภาพอากาศ พบว่าร่องมรสุมกำลังปานกลางจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ
ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้ในช่วงวันที่ 20 – 25 สิงหาคม 2566 มีพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน ดังนี้ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงรายขุนตาล และแม่สรวย) จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอฝาง และแม่อาย) จังหวัดน่าน (อำเภอนาหมื่น และเวียงสา) จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอเขาค้อ) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย เฝ้าไร่ โพนพิสัย และรัตนวาปี) จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอบุ่งคล้า) จังหวัดนครพนม (อำเภอ ท่าอุเทน และศรีสงคราม) จังหวัดสกลนคร (อำเภอพรรณานิคม สว่างแดนดิน และอากาศอำนวย) จังหวัดอุดรธานี (อำเภอบ้านดุง) จังหวัดอำนาจเจริญ (อำเภอเมืองอำนาจเจริญและหัวตะพาน) จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอเมืองสุรินทร์) จังหวัดศรีสะเกษ (อำเภอเมืองศรีสะเกษ) จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเขื่องใน) ภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี แก่งหางแมว และขลุง) จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง บ่อไร่ คลองใหญ่ และเกาะช้าง) ภาคใต้ จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง และกะเปอร์) จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ทับปุด และท้ายเหมือง) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง) จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล และละงู) จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ปะเหลียน และวังวิเศษ) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอพนม และบ้านตาขุน) - ผลการดำเนินงานตาม 12 มาตรการ รองรับฤดูฝน ปี 2566
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวง 2 หน่วยปฏิบัติการ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร 9 จังหวัด ดังนี้ จังหวัดศรีสะเกษ บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ นครราชสีมา อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท และลพบุรี สามารถเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว และอ่างเก็บน้ำห้วยหนองโรง - การบริหารจัดการน้ำ การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์
สทนช. ลงพื้นที่เสี่ยงแล้ง ณ ตำบลนครเดิฐ อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทานอยู่ในช่วงการเพาะปลูกพืชหลายชนิด ได้แก่ นาข้าว พืชไร่ และพืชสวน ในขณะที่ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำหลักอาจไม่เพียงพอสำหรับการใช้น้ำภาคการเกษตรได้ถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 และคาดว่าในช่วงระยะเวลาอีกประมาณ 2 เดือนต่อจากนี้หากไม่มีปริมาณฝนตกเพียงพอในพื้นที่ ข้าวซึ่งครบเวลาเก็บเกี่ยวมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายขึ้นได้ โดยในเบื้องต้นได้มีการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ตามโครงการขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อการเกษตรของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ณ บริเวณหนองปลิง ซึ่งจะเพียงพอต่อการเพาะปลูกในระยะปัจจุบัน และได้มีการบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเสี่ยงในการขาดแคลนน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญในระยะยาวต่อไป