หลอกให้ลงทุนระบาดหนักเสียกว่าหมื่นล้านบาท
สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกโรงเตือนประชาชาระมัดระมัดข่าวลวง ข่าวหลอก หลงเชื่อให้นักลงทุน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกโรงเตือนประชาชาระมัดระมัดข่าวลวง ข่าวหลอก หลงเชื่อให้นักลงทุน เผยเป็นกลอุบายของนักต้มตุ๋มผ่านโลกออนไลน์ สร้างความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท
พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงสถิติคดีอาชญากรรมออนไลน์ประเภท “หลอกให้ลงทุน” และอุบายในการหลอกลวง โดยสถิติคดีออนไลน์ที่ประชาชนแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์www.thaipoliceonline.com พบว่า คดีหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 1 มี.ค.65-30 มิ.ย.66 มีการแจ้งความจำนวนสูงถึง 23,616 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 11,550 ล้านบาท สำหรับเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มียอดการแจ้งความสูงถึง 876 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 600 ล้านบาท
รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ในปัจจุบัน โจรออนไลน์ใช้อุบายที่หลากหลายในการหลอกลวง เช่น เทรดเหรียญดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์, ลงทุนเกี่ยวกับเหรียญคริปโต, ลงทุนกับบริษัทปล่อยเงินกู้ผลตอบแทนสูง, ร่วมลงทุนประมูลสินค้าเพื่อรับผลตอบแทน, ลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศ, และลงทุนหุ้นในเครือบริษัทชื่อดัง นอกจากนี้ โจรออนไลน์มักปลอมโปรไฟล์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเรื่องการเงินการลงทุน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการหลอกลวง และเข้าหาผู้เสียหายผ่านการแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มสังคมออนไลน์ของผู้ที่สนใจด้านการลงทุน
พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ กล่าวว่า พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ที่มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.66 ผลของกฎหมายมีผลให้เจ้าของบัญชีม้าหรือเบอร์ม้า มีโทษอาญาหนัก จำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ได้เป็นธุระจัดหา โฆษณา ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ ก็มีโทษอาญาหนักเช่นกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยประชาชน จึงได้จัดทำแบบทดสอบ Cyber Vaccine เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไซเบอร์ให้กับประชาชน ขอให้ประชาชนต้องมีสติ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของโจรออนไลน์
ทั้งนี้ สามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ www.เตือนภัยออนไลน์.com และ เพจเฟซบุ๊ก “เตือนภัยออนไลน์” ปรึกษา-ขอคำแนะนำได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-866-3000 โดยผู้เสียหายสามารถติดต่อธนาคารของตนเองเพื่อทำการระงับบัญชี โดยธนาคารจะออก Bank ID ผ่าน sms และขอให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจที่ใดก็ได้โดยเร็ว โดยไม่ต้องคำนึงถึงท้องที่เกิดเหตุภายใน 72 ชั่วโมง หรือแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com