เมกาโชว์ แบงค็อก 2023 มหกรรมสินค้าอาเซียน
บตางาน “เมกาโชว์ แบงค็อก 2023” แหล่งดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 3 พันคน สั่งซื้อสินค้าต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส
นายนิคม เลิศมัลลิกาพร ประธานกรรมการ บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี อี ซี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ บริษัท Comasia Limited (Comasia) จัดงานแสดงสินค้าเมกาโชว์ แบงค็อก 2023 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 ก.ค.2566 ศูนย์การแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ ไบเทคว่า ในระหว่างการจัดงานทั้ง 3 วัน จะมีเป็นสินค้าหลากหลายประเภทมากกว่า 500 บูธ ประกอบด้วยสินค้าและดีไซน์สุดทันสมัย จากหลายประเทศในกลุ่มอาเซียนมาร่วมแสดงด้วย ทั้งสินค้ากลุ่มของขวัญ ของชำร่วย สินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านและเครื่อง ครัว เครื่องเขียน สินค้าสำหรับการท่องเที่ยวและการเดินทาง สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าประเภทรักษ์สิ่งแวด ล้อม เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งฯ
“เมื่อไม่กี่ปีมานี้ อาเซียนได้เป็นที่ยอมรับว่า มีการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและมี GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เติบโตขึ้นอย่างมาก กำลังซื้อและมาตรฐานการครองชีพ ของประชากรได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการได้กลับมาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อให้เกิดโรงแรม ร้านอาหาร บาร์ อย่างมากมายในภูมิภาคนี้ และทำให้เกิดความต้องการในการหาซื้อสินค้าอุปโภคและสินค้าที่มีดีไซน์ และมีคุณภาพขึ้นอย่างมหาศาล”
ทั้งนี้ ประเทศไทย ตั้งอยู่ในใจกลางของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งสามารถเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ได้ในระยะใกล้ๆ อาทิเช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา พม่า ลาว บรูไน มาเลเซีย และสิงคโปร์ จึงทำให้ประเทศไทย ได้กลายมาเป็นจุดแหล่งรวมนัดพบของผู้ผลิตและผู้ซื้อ และเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการค้าขายและการเลือกซื้อหาสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภคที่ผลิตโดยประเทศในกลุ่มอาเซียน
“งานเมกาโชว์ แบงค็อก 2023” จะเป็นงานแสดงสินค้าและนิทรรศการที่นำเอาสินค้าชั้นดีที่คัดสรรแล้ว ทั้งผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย จากกลุ่มประเทศอาเซียนและอีกหลากหลายประเทศ เช่น ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ตุรกี มาเลเซีย อินเดีย ปากีสถาน รัสเซีย ออสเตรเลีย บังคลาเทศ สหรัฐอเมริกา อังกฤษฯ นอกจากนี้ยังมีอีก 4 ประเทศพาวิลเลี่ยน ซึ่งเป็นสินค้าที่คัดสรรแล้วจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และจากประเทศไทย”
นายนิคม กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ คาดว่า จะมีนักธุรกิจเดินทางเข้าชมงานกว่า 3,000 คน และมีเงินสะพัดในงานมากกว่า 1,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ เดินทางการมาเพื่อติดต่อและเจรจาธุรกิจ เพื่อสั่งซื้อสินค้าเตรียมเอาไว้ขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
นอกจากนี้ ในระหว่างวันจัดงาน ยังจัดให้มีการสัมมนาในเชิงวิชาการ ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้ความรู้ในการทำธุรกิจอีกด้วย ซึ่งวิทยากรที่มาบรรยาย จะประกอบไปด้วยภาคองค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิเช่น จาก อเมซอน เอเจอีคอมเมิสซ์ และเทสโก้โลตัส
สำหรับงานสัมมนาในหัวข้อ “2023 China – ASEAN ( Thailand) E-Commerce Development Forum” จะจัดขึ้นในวันที่ 19 และ 20 ก.ค.โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะหาโอกาสในการร่วมมือและพัฒนา การนำไปสู่อุตสาหกรรมอีคอมเมิสซ์ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวก็จะมีการจัดสัมมนาในหัวข้อ “Do or Die” ภายใต้คอนเซ็ปส์ ของการพัฒนานวัตกรรม ส่วนในวันที่ 21 กรกฎาคม จะมีงานสัมมนาในหัวข้อ “ความยั่งยืนและการออกแบบ” ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองแนวโน้มความนิยมของตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน ผู้ที่สนใจเข้าฟังการสัมมนา