นักธุรกิจจีนจัดทัพใหญ่4พันคนบุกไทย
นักธุรกิจจีนและครอบครัวกว่า 4 พันคนเข้าร่วมงาน “การประชุมนักธุรกิจจีนโลก”
นักธุรกิจจีนและครอบครัวกว่า 4 พันคนเข้าร่วมงาน “การประชุมนักธุรกิจจีนโลก” คึกคัก ด้านหอการค้าไทย-จีน สุดปลื้ม!! ไทยเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนได้สำเร็จ คาดว่า เงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท ส่วนระยะยาวนักธุรกิจจีนพร้อมลุยโครงการยักษ์ในอีอีซี
นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน ประธานจัดงานการประชุมนักธุรกิจจีนโลก ครั้งที่ 16 (World Chinese Entrepreneurs Convention : WCEC) ระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย.2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า เพียงช่วงระยะเวลา 2 วัน (24-25 มิ.ย.) ของการจัดงาน เราคาดว่า จะมีเงินสะพัดเกิดขึ้นในไทยประมาณ 500 ล้านบาท เนื่องจากนักธุรกิจจีนและครอบครัวให้ความสนในเข้าร่วมประชุมในงานนี้ ทะลุเป้าหมายจากเดิม 3,000 คน ล่าสุดมาร่วมงานเกือบ 4,000 คน
“ในจำนวนนักธุรกิจจีน 4,000 คน เป็นนักธุรกิจที่บินตรงมาจากจีน 1,000 คน นักธุรกิจจีนโพ้นทะเล 1,500 คน ส่วนที่เหลือเป็นนักธุรกิจจากไทยและประเทศอื่นๆ”
ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า นักธุรกิจจีนให้ความสำคัญกับไทยมาก โดยเฉพาะการลงทุนในอีอีซี ซึ่งขณะนี้ อุตสาหกรรมยานรถไฟฟ้าจีนเข้ามาลงแล้วหลายราย นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หรือไฮเทค และการผลิตยาสมุนไพร เป็นต้น ที่กำลังสนใจเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม
“World Chinese Entrepreneurs Convention” เป็นเวทีประชุมผู้ค้าชาวจีนจากทุกประเทศทั่วโลก โดนจะจัดขึ้นทุก 2 ปี ในปีนี้หอการค้าไทย-จีนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมโดยมุ่งสร้างเครือข่ายทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการจีนทั่วโลก ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนระหว่างไทยกับนานาประเทศ
“สาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นประเทศคู่ค้าของไทยอันดับต้นๆ ด้วยปัจจัยสนับสนุนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แนบแน่นกว่า 45 ปี ทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ด้านการค้าการลงทุน ตลอดจนด้านการท่องเที่ยวที่รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้ประชากรจีนเดินทางท่องเที่ยวในไทยเป็นประเทศแรกๆ” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวและกล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจีนและนักธุรกิจจีนให้ความสำคัญกับไทยเป็นอย่างมาก และเชื่อว่า ประเด็นการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือปัญหาของการลงทุน เพราะผมเตือนว่า นักลงธุรกิจจีนควรลงทุนในไทยระยะยาวไม่ใช่ระยะสั้นๆ ดังนั้น ไม่ว่า ใครจะมาเป็นรัฐบาลขอให้ประเทศชาติดี เศรษฐกิจดี เราก็พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดเฉพาะเรื่องค่าแรงสูงที่จะปรับตัวสูงขึ้นนั้น ถ้าเศรษฐกิจดี โรงงานผลิตสินค้าแล้วขายได้ ค่าแรงแพงก็ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ในอดีตญี่ปุ่นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกและเอเชีย เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีจำนวนประชากรจำนวนมาก แต่ปัจจุบัน จีนกำลังแรง และมีความพร้อมในทุกๆ ด้านทั้งเทคโนโลยีและจำนวนประชากร ซึ่งอดีตที่ผ่านมา เราเคยไปลงทุนผลิตมอเตอร์ไซค์ที่จีน เพราะเห็นว่า เป็นเรื่องใหม่ ขณะที่ความต้องการของคนจีนในช่วงเวลานั้น มีมาก แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการในอนาคตคือ การหาพลังงานราคาถูก ซึ่งปัจจุบันพลังงานจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถูกที่สุด