SAM มั่นใจคลินิกแก้หนี้ช่วยประชาชนได้ 1 แสนคน

SAM เผยหลังปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในโครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” ทำให้ประชาชนที่มีหนี้ หันมาสนใจแก้ไขหนี้มากขึ้น หลังจากที่ ธปท.

นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัดหรือ บบส.-SAM มั่นใจโครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” จะช่วยแก้ไขหนี้ประชาชนจากสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิตในปีนี้ ได้ไม่น้อยกว่า 155,000 คน และคาดว่า จะมีลูกหนี้คงอยู่ในโครงการนี้ จนเป็นอิสระได้ ไม่น้อยกว่า 50,000 คน เนื่องจากมีเงื่อนไขที่พิเศษสุด

ทั้งนี้ ตั้งปีนี้ 2560 จนถึงปัจจุบัน “คลินิกแก้หนี้ by SAM” มีลูกหนี้ที่ลงนามเข้าร่วมสัญญากับโครงการแล้ว 40,030 ราย หรือ 116,947 บัญชี คือ ยอดเงินต้นตามสัญญา 7,928 ล้านบาท โดยเป็นลูกค้าที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว สามารถกลับไปดำเนินชีวิตหรือธุรกิจได้ตามปกติเพียง 1,312 ราย หรือ 3,351 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นตามสัญญาประมาณ 179 ล้านบาทเท่านั้น

“เงื่อนไขที่ตึงเกินไปทำให้ลูกหนี้ไม่เข้าร่วมโครงการ ประกอบการประชาสัมพันธ์ที่อ่อนไป ทำให้ประชาชนรับรู้ได้น้อย แต่ในปีนี้ SAM ได้ปรับเงื่อนไขใหม่ทำให้ยอดผู้เข้าร่วมโครงการมีมาก โดยเดือนพ.ค. เพียงเดือนเดียว ยอดเพิ่มขึ้น 288% หรือคิดเป็น 17,600 ราย”
สำหรับเงื่อนไขที่ผ่อนปรนและเป็นเงื่อนไขที่ใช้ในปัจจุบันประกอบด้วย 1.บุคคลธรรมดาที่มีรายได้ มีอายุไม่เกิน 70 ปี 2.ยอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท และ3.เป็นหนี้เสียค้างชำระมากกว่า 120 วัน จากเดิมต้องมีหนี้ติดค้างเกินกว่า 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาผลการสมัคร ขอให้ลูกค้าเตรียมเอกสารสำคัญประกอบการสมัคร ดังนี้ 1. เอกสารรายงานเครดิตบูโร 2. สำเนาบัตรประชาชน 3. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (กรณีผู้มีรายได้ประจำ)/รายการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 3 เดือน หรือหนัง
สือรับรองรายได้ (กรณีอาชีพอิสระ)
โดยลูกค้าที่เป็นหนี้เสียรายใหม่และมีคุณสมบัติผ่านหลักเกณฑ์เข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” จะได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพียง 3-5% ต่อปี และระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 10 ปี โดยมีทางเลือกปรับโครงสร้างหนี้ เป็น 3 วิธีคือ 1. ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปีอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี 2. ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี และ3. ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี
“เงื่อนไขที่ผ่อนปรนมากขึ้น โดยเฉพาะการเลือกผ่อนยาวสูงสุดอายุไม่เกิน 70 ปี จะทำให้ผู้กู้มีภาระในการผ่อนส่งต่อเดือนลดลงอย่างมาก” นายธรัฐพร กล่าว

ขณะที่ นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. ระบุว่า การแก้ไขหนี้ที่เกิดจากสินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต จะสามารถช่วยลดหนี้ครัวเรือนได้ ส่วนเรื่องการควบคุมอัตราดอกเบี้ยของลิสซิ่ง และสินเชื่อเช่าซื้อนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา หลังจากผ่อนการพิจารณาจาก ครม.ไปแล้วรอบแรก