SAM มั่นใจคลินิกแก้หนี้ช่วยประชาชนได้ 1 แสนคน
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2023/06/SAM3-1024x683.jpg)
SAM เผยหลังปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในโครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” ทำให้ประชาชนที่มีหนี้ หันมาสนใจแก้ไขหนี้มากขึ้น หลังจากที่ ธปท.
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2023/06/SAM1-1024x683.jpg)
นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัดหรือ บบส.-SAM มั่นใจโครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” จะช่วยแก้ไขหนี้ประชาชนจากสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิตในปีนี้ ได้ไม่น้อยกว่า 155,000 คน และคาดว่า จะมีลูกหนี้คงอยู่ในโครงการนี้ จนเป็นอิสระได้ ไม่น้อยกว่า 50,000 คน เนื่องจากมีเงื่อนไขที่พิเศษสุด
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2023/06/SAM2-1024x683.jpg)
ทั้งนี้ ตั้งปีนี้ 2560 จนถึงปัจจุบัน “คลินิกแก้หนี้ by SAM” มีลูกหนี้ที่ลงนามเข้าร่วมสัญญากับโครงการแล้ว 40,030 ราย หรือ 116,947 บัญชี คือ ยอดเงินต้นตามสัญญา 7,928 ล้านบาท โดยเป็นลูกค้าที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว สามารถกลับไปดำเนินชีวิตหรือธุรกิจได้ตามปกติเพียง 1,312 ราย หรือ 3,351 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นตามสัญญาประมาณ 179 ล้านบาทเท่านั้น
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2023/06/SAM3-1024x683.jpg)
“เงื่อนไขที่ตึงเกินไปทำให้ลูกหนี้ไม่เข้าร่วมโครงการ ประกอบการประชาสัมพันธ์ที่อ่อนไป ทำให้ประชาชนรับรู้ได้น้อย แต่ในปีนี้ SAM ได้ปรับเงื่อนไขใหม่ทำให้ยอดผู้เข้าร่วมโครงการมีมาก โดยเดือนพ.ค. เพียงเดือนเดียว ยอดเพิ่มขึ้น 288% หรือคิดเป็น 17,600 ราย”
สำหรับเงื่อนไขที่ผ่อนปรนและเป็นเงื่อนไขที่ใช้ในปัจจุบันประกอบด้วย 1.บุคคลธรรมดาที่มีรายได้ มีอายุไม่เกิน 70 ปี 2.ยอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท และ3.เป็นหนี้เสียค้างชำระมากกว่า 120 วัน จากเดิมต้องมีหนี้ติดค้างเกินกว่า 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาผลการสมัคร ขอให้ลูกค้าเตรียมเอกสารสำคัญประกอบการสมัคร ดังนี้ 1. เอกสารรายงานเครดิตบูโร 2. สำเนาบัตรประชาชน 3. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (กรณีผู้มีรายได้ประจำ)/รายการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 3 เดือน หรือหนัง
สือรับรองรายได้ (กรณีอาชีพอิสระ)
โดยลูกค้าที่เป็นหนี้เสียรายใหม่และมีคุณสมบัติผ่านหลักเกณฑ์เข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” จะได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพียง 3-5% ต่อปี และระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 10 ปี โดยมีทางเลือกปรับโครงสร้างหนี้ เป็น 3 วิธีคือ 1. ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปีอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี 2. ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี และ3. ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี
“เงื่อนไขที่ผ่อนปรนมากขึ้น โดยเฉพาะการเลือกผ่อนยาวสูงสุดอายุไม่เกิน 70 ปี จะทำให้ผู้กู้มีภาระในการผ่อนส่งต่อเดือนลดลงอย่างมาก” นายธรัฐพร กล่าว
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2023/06/S__4751523-1024x683.jpg)
ขณะที่ นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. ระบุว่า การแก้ไขหนี้ที่เกิดจากสินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต จะสามารถช่วยลดหนี้ครัวเรือนได้ ส่วนเรื่องการควบคุมอัตราดอกเบี้ยของลิสซิ่ง และสินเชื่อเช่าซื้อนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา หลังจากผ่อนการพิจารณาจาก ครม.ไปแล้วรอบแรก