สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 1 มิ.ย. 66
ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุม โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักบริเวณ จ.พังงา (117) จ.นครราชสีมา (53) จ.ตาก (52) จ.อุทัยธานี (35) จันทบุรี (43) จ.กาญจนบุรี (13)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 43,013 ล้าน ลบ.ม. (52%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38,590 ล้าน ลบ.ม. (54%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี ยกเว้นน้ำท่าจีนค่าออกซิเจนต่ำกว่ามาตรฐาน
กรมทรัพยากรน้ำ ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าและเร่งรัดผลการเบิกจ่ายโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำโคกนนทรี หมู่ที่ 17 ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิตให้กับประชาชนในพื้นที่ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะมีความจุเก็บกัก 0.165 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ 27 ครัวเรือน พื้นที่เกษตร 250 ไร่
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากช่วง 1-3 วัน ดังนี้ ภาคเหนือ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ และตาก ภาคตะวันออก บริเวณ จ.จันทบุรี และตราด ภาคใต้ บริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
กรมชลประทาน ดำเนินการโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทรจ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านบริเวณตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา มีลักษณะแคบเป็นคอขวด ทำให้สามารถระบายน้ำได้เพียง 1,200 ลบ.ม./วินาที อีกทั้งบริเวณเกาะเมืองอยุธยาเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อปริมาณน้ำไหลมารวมกันบริเวณจุดบรรจบส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งอยู่เป็นประจำ กระทบต่อพื้นที่ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา มักจะสบปัญหาอุทกภัยซ้ำซาก จึงได้ดำเนินโครงการคลองระบายน้ำหลากฯ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยมีองค์ประกอบโครงการ ดังนี้
คลองระบายน้ำสายใหม่ ความยาวประมาณ 22.50 กม. ระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลบ.ม./วินาที พร้อมถนนลาดยางบนคันคลองทั้ง 2 ฝั่ง
ประตูระบายน้ำ 2 แห่ง อัตราการระบายน้ำสูงสุด 1,200 ลบ.ม./วินาทีสะพานรถยนต์ข้ามคลองระบายน้ำหลากฯ จำนวน 11 แห่งสถานีสูบน้ำและท่อระบายน้ำ บริเวณจุดตัดของคลองระบายน้ำหลากกับคลองส่งน้ำเดิม จำนวน 37 แห่ง
กำแพงป้องกันตลิ่งท้ายประตูระบายน้ำ ปลายคลองระบายน้ำหลากฯ ความยาว 4 กม.คันกั้นน้ำโดยรอบพื้นที่โครงการฯ พร้อมอาคารประกอบ มีความยาวประมาณ 54 กม.ปัจจุบันมีผลการดำเนินงานคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 37 ของแผนฯ หากโครงการแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยบริเวณตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ช่วยเพิ่มศักยภาพในการใช้ประโยชน์พื้นที่ด้านเกษตรกรรม ทั้งยังเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคกว่า 15 ล้าน ลบ.ม.
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ดังนี้
ประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
กอนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ในช่วงวันที่ 27 พ.ค. – 1 มิ.ย. 2566 โดยมีผลกระทบกับ ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอหล่มเก่า) ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี (อำเภอท่ายาง บ้านลาด และเมืองเพชรบุรี) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอหัวหิน และปราณบุรี) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอเมืองสุรินทร์) จังหวัดบุรีรัมย์ (อำเภอเมืองบุรีรัมย์) จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเมืองอุบลราชธานี และพิบูลมังสาหาร) ภาคตะวันออก ได้แก่จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมืองชลบุรี) จังหวัดระยอง (อำเภอเมืองระยอง และแกลง) จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี) จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด และเขาสมิง) และ ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดชุมพร (อำเภอพะโต๊ะ) จังหวัดระนอง(อำเภอกะเปอร์ เมืองระนอง และสุขสำราญ)จังหวัดพังงา (อำเภอกะปง คุระบุรี ตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอกะทู้ ถลาง และเมืองภูเก็ต) จังหวัดกระบี่ (อำเภอเกาะลันตา คลองท่อม เมืองกระบี่ เหนือคลองและอ่าวลึก) จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง กันตัง และปะเหลียน) จังหวัดสตูล (อำเภอทุ่งหว้า)
ผลการดำเนินงานตาม 12 มาตรการ รองรับฤดูฝน ปี 2566
2.1 กรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝน ดำเนินการเร่งลดระดับน้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่แนวริมแม่น้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงกำจัดขยะมูลฝอยและวัชพืช ไม่ให้กีดขวางทางน้ำประกอบด้วย คลองหนึ่ง เขตลาดกระบัง คลองลำหินฝั่งเหนือ คลองหลวงแพ่ง เขตหนองจอก คลองเปรมประชากรเขตดอนเมือง และคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงสถานีรถไฟฟ้าวัดเสมียนนารี เขตจตุจักร2.2 กรมชลประทาน ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 1 เครื่อง บริเวณ ตำบลดอนแฝก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รวมถึงดำเนินการกำจัดวัชพืช ในเขตพื้นที่ ตำบลอินทรประมูล อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เพื่อลดการแพร่ขยายของผักตบชวาและเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งน้ำในช่วงฤดูฝน
สภาพอากาศ
ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนมากบริเวณด้านรับมรสุม โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณด้านตะวันตกของภาคกลาง
แหล่งน้ำทั่วประเทศ
4.1 แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำ 43,013 ล้าน ลบ.ม. (52%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง มีปริมาณน้ำ 38,590 ล้าน ลบ.ม. (54%) ขนาดกลาง 369 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 2,665 ล้าน ลบ.ม. (46%) และขนาดเล็ก 139,903 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 1,757 ล้าน ลบ.ม. (34%)4.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ)ปริมาณน้ำใช้การ 5,204 ล้าน ลบ.ม. (29%)