สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 24 พ.ค. 66
ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.บุรีรัมย์ (67) จ.สระบุรี (66) จ.ลำปาง (64) จ.ราชบุรี (51) จ.ระยอง (44) และ จ.พังงา (35)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 43,816 ล้าน ลบ.ม. (53%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,458 ล้าน ลบ.ม. (55%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี ยกเว้นแม่น้ำบางปะกง ค่าความเค็มสูงเกินมาตรฐาน และแม่น้ำท่าจีนค่าออกซิเจนต่ำกว่ามาตรฐาน
กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ประชาชนได้รับประโยชน์ 90 ครัวเรือน และ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ประชาชนได้รับประโยชน์ 1,723 ครัวเรือน พื้นที่เกษตร 17,450 ไร่
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำนองไม่สามารถระบายได้ทัน ในช่วงวันที่ 27 พ.ค.–1 มิ.ย. 66 ดังนี้ภาคเหนือ จ.เพชรบูรณ์ (อ.หล่มเก่า)ภาคกลาง จ.เพชรบุรี (อ.ท่ายาง บ้านลาด และเมืองเพชรบุรี) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (อ.หัวหิน และปราณบุรี)ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.สุรินทร์ (อ.เมืองสุรินทร์) จ.บุรีรัมย์ (อ.เมืองบุรีรัมย์) จ.อุบลราชธานี (อ.เมืองอุบลราชธานี และพิบูลมังสาหาร)ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี (อ.เมืองชลบุรี) จ.ระยอง (อ.เมืองระยอง และแกลง) จ.จันทบุรี (อ.เมืองจันทบุรี) จ.ตราด (อ.เมืองตราด และเขาสมิง)ภาคใต้ จ.ชุมพร (อ.พะโต๊ะ) จ.ระนอง (อ.กะเปอร์ เมืองระนอง และสุขสำราญ) จ.พังงา (อ.กะปง คุระบุรี ตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง) จ.ภูเก็ต (อ.กะทู้ ถลาง และเมืองภูเก็ต) จ.กระบี่ (อ.เกาะลันตา คลองท่อม เมืองกระบี่ เหนือคลอง และอ่าวลึก) จ.ตรัง (อ.เมืองตรัง กันตัง และปะเหลียน) จ.สตูล (อ.ทุ่งหว้า)ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ กอนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำนองไม่สามารถระบายได้ทัน
เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ดังนี้
ประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
กอนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ในช่วงวันที่ 27 พ.ค. – 1 มิ.ย. 2566 โดยมีผลกระทบกับ ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอหล่มเก่า) ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี (อำเภอท่ายาง บ้านลาด และเมืองเพชรบุรี) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอหัวหิน และปราณบุรี) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอเมืองสุรินทร์) จังหวัดบุรีรัมย์ (อำเภอเมืองบุรีรัมย์) จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเมืองอุบลราชธานี และพิบูลมังสาหาร) ภาคตะวันออก ได้แก่จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมืองชลบุรี) จังหวัดระยอง (อำเภอเมืองระยอง และแกลง) จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี) จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด และเขาสมิง) และ ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดชุมพร (อำเภอพะโต๊ะ) จังหวัดระนอง
(อำเภอกะเปอร์ เมืองระนอง และสุขสำราญ)จังหวัดพังงา (อำเภอกะปง คุระบุรี ตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอกะทู้ ถลาง และเมืองภูเก็ต) จังหวัดกระบี่ (อำเภอเกาะลันตา คลองท่อม เมืองกระบี่ เหนือคลองและอ่าวลึก) จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง กันตัง และปะเหลียน) จังหวัดสตูล (อำเภอทุ่งหว้า)
ผลการดำเนินงานตาม 12 มาตรการ รองรับฤดูฝน ปี 2566
กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน 2566 ตามมาตรการรับมือฤดูฝน 2566 ของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ มาตรการที่ 4 โดยให้ตรวจสอบ ซ่อมบำรุงรักษา สถานีเตือนภัยล่วงหน้า น้ำท่วม – ดินถล่ม (Early Warning System) ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง และสงขลา ให้มีความสมบูรณ์พร้อมใช้งาน สามารถทำงานตรวจวัด และแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้เต็มศักยภาพ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ลดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างทันท่วงที ในกรณีเกิดภัย
สภาพอากาศ
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง แต่ยังคงมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
แหล่งน้ำทั่วประเทศ
4.1 แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำ 43,816 ล้าน ลบ.ม. (53%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง มีปริมาณน้ำ 39,358 ล้าน ลบ.ม. (55%) ขนาดกลาง 369 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 2,701 ล้าน ลบ.ม. (47%) และขนาดเล็ก 139,903 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 1,757 ล้าน ลบ.ม. (35%) 4.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ)ปริมาณน้ำใช้การ 5,586 ล้าน ลบ.ม. (31%)