ยอดสลากดิจิทัลอิ่ม!! แค่ 20 ล้านฉบับก็จอด
สำนักงานสลากฯ จะไม่เพิ่มสลากดิจิทัล จากปัจจุบันมียอดจำหน่ายงวดละ 19-20 ล้านฉบับ
เนื่องจากตลาดเริ่มอิ่มตัว หรืออาจเกิดจากปั่นราคาของแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น กองสลากพลัส ในช่วงที่ผ่านมา“ตอนนี้ เราจำหน่ายดิจิทัลในปริมาณเท่าเดิมคือไม่เกิน 20 ล้านฉบับ จากจำนวนสลากทั้งหมด 100 ล้านฉบับ หรือคิดเป็น 20%” นายธนวรรธร์ พลวิชัย บอร์ดและในฐานะโฆษกสำนักงานสลากฯ กล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ คาดว่า ความต้องการสลากดิจิทัลในแต่ละงวดจะมีมากขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทลายแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ไปหมดแล้ว ซึ่งคาดว่า ปริมาณสลากที่ขายอยู่ในแพลตฟอร์มมีประมาณ 10 ล้านฉบับ“หากเป็นเช่นนั้น จริง ความต้องการสลากของสลากดิจิทัล ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ควรมีความต้องการเพิ่มขึ้นอีก 5-10 ล้านบาท แต่ตลอดหลายงวดที่ผ่านมา ระดับความการและยอดขายสลากดิจิทัลอยู่ประมาณ 20 ล้านฉบับ ไม่ขึ้นหรือลง ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัลในช่วงนี้”
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บอร์ดสำนักงานสลากฯ ที่มี นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร มีมติเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัลเป็น 30 ล้านฉบับภายในปีนี้ (2566) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อปีที่แล้ว หลังจากได้เพิ่มจำหน่ายสลากดิจิทัล จาก 0 ฉบับขึ้นเป็น 20 ล้านฉบับภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี
นายธนวรรธร์ กล่าวว่า จากนี้ไป ต้องปล่อยให้การตรวจสอบเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบว่า แพลตฟอร์มต่างๆ เป็นขบวนการฟอกเงินที่กระทำผิดกฎหมายหรือไม่ แต่ตัวเลขที่ออกมา เราประเมินได้ว่า แพลตฟอร์มสลาก ไม่ได้มีการซื้อสลากจริงในปริมาณสูงถึง 10 ล้านฉบับต่องวด
ส่วนสลากL6 และM3 นั้น ล่าสุดได้ผ่านการพิจารณาจาก ครม.เรียบร้อยแล้ว โดยได้ส่งต่อไปยัง สรค.เพื่อพิจารณาเพิ่มเติม แต่ สคร.จะเสนอกลับมาให้ ครม.พิจารณาใหม่อีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกระทรวงการคลัง ซึ่งในช่วงนี้ ใกล้กับการเลือกตั้งทั่วไป ประกอบกับมีพรรคการเมืองใช้สลากหรือล็อต เตอรี่มาเป็นนโยบายหาเสียงอีกด้วย
ดังนั้น หากฝ่ายการเมืองที่มาเป็นรัฐบาลต้องการเปลี่ยนแปลง หรือมีนโยบายใดๆ ก็สามารถทำได้ เพราะนโยบายที่ทำแล้ว ประชาชนได้ประโยชน์สำนักงานสลากฯ ก็พร้อมดำเนินการตามอยู่แล้ว