สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 8 พ.ค. 66

ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.นครศรีธรรมราช (63มม.) จ.สุราษฎร์ธานี (54 มม.) และ จ.พังงา (42 มม.)
น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 21,282 ล้าน ลบ.ม. (37%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 17,182 ล้าน ลบ.ม. (36%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานีกองทัพบก ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนพระภิกษุสามเณรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค ในพื้นที่ วัดหาดเค็ดล่าง ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง จ.น่านพร้อมรถบรรทุกน้ำ จำนวน 6,000 ลิตร เพื่อการบรรเทาความเดือดร้อนในห้วงฤดูแล้ง และลงพื้นที่ป่าชุมชนต้นน้ำ ร่วมกับ ส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ ร่วมสร้างฝายแกนซอยซีเมนต์ เพื่อกักเก็บน้ำสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ป่าชุมชน และช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวน บรรเทาภัยแล้ง ในพื้นที่ ห้วยชำแล้ง บ.ไฮ่ฮ้า ม.7ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์กอนช. เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฤดูร้อนและหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างกอนช. เฝ้าติดตามการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 8 – 10 พ.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 14 พ.ค. 66 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน จะเคลื่อนผ่านอ่าวเบงกอลตอนกลาง และทะเลอันดามันตอนบน หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเมียนมา ส่งผลทำให้ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้นทำให้ในช่วงวันที่ 11 – 14 พ.ค. 66 ประเทศไทยจะมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำพร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เพื่อบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์
กักเก็บ และสำรองไว้ใช้หากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ซึ่งแนวโน้มช่วงฤดูฝนปีนี้ฝนจะน้อยกว่าค่าปกติประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ดังนี้
ผลการดำเนินงานตาม 10 มาตรการ รองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ฤดูแล้ง ปี 2565/66
1.1 การประปาส่วนภูมิภาค เตรียมพร้อมรับมือภัยแล้ง โดยใช้มาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ได้แก่ มาตรการด้านแหล่งน้ำดิบ โดยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด สำรวจและบริหารจัดการแหล่งน้ำ เฝ้าระวังคุณภาพน้ำไม่ให้เกิดการปนเปื้อน รวมถึงเร่งรัดแผนงานการพัฒนาแหล่งน้ำ มาตรการด้านการผลิตและจ่ายน้ำ โดยบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อรายงานสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และการช่วยเหลือประชาชน เตรียมพร้อมกำลังคนและรถยนต์บรรทุกน้ำ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด และจัดเตรียมภาชนะสำรองน้ำไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
1.2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกำลังพลชุดปฏิบัติงานช่าง และชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมรถขุดตัก เข้าช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำใช้ทางการเกษตร ดำเนินการขุดคลองใส้ไก่ชั่วคราว เพื่อเป็นทางน้ำไหลเข้าพื้นที่การเกษตรของประชาชนและสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จำนวน 70 ครัวเรือน ประชาชน 350 คน และพื้นที่ทางการเกษตร 500 ไร่ ณ บริเวณหนองบัง ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
สภาพอากาศ
ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่บริเวณประเทศไทยตอนบน ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
แหล่งน้ำทั่วประเทศ
3.1 แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำใช้การ 21,282 ล้าน ลบ.ม. (37%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 17,155 ล้าน ลบ.ม. (36%) ขนาดกลาง 369 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 2,381 ล้าน ลบ.ม. (47%) และขนาดเล็ก 139,903 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 1,745 ล้าน ลบ.ม. (34%)
3.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) ปริมาณน้ำใช้การ 6,268 ล้าน ลบ.ม. (34%)
ผลการจัดสรรน้ำ (สะสมตั้งแต่ 1 พ.ค. ถึงปัจจุบัน)
4.1 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถจัดสรรน้ำได้มีจำนวน 35 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้การทั้งสิ้น 17,089 ล้าน ลบ.ม. (36%) มีแผนการจัดสรรน้ำ 15,701 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 827 ล้าน ลบ.ม. (5%)
4.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแผนการจัดสรรน้ำ 5,500 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 366 ล้าน ลบ.ม. (7%)