สรุปข่าวประจำ วันที่ 4 พฤษภาคม 2566
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (3 พ.ค. )
ปิดที่ 33,414.24 จุด ลดลง 270.29 จุด (0.80%) หุ้นแนสแดด ปิดที่ 13,030.21 จุด ลดลง 83.45 จุด (0.64%) เอสแอนด์พี ปิดที่ 4,090.75 จุด ลดลง 28.83 จุด (0.70%) ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด(3 พ.ค.) ที่ระดับ 1,533.30 จุด เพิ่มขึ้น 4.87จุด(0.32%) การซื้อขาย 54,979.37 ล้านบาท
น้ำมัน : ปตท และบางจาก ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลทุกชนิดลง 0.50 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์คงเดิม มีผล 4 พ.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG = 43.44, GSH95 = 35.65, E20 = 33.34, GSH91 = 35.38, E85 = 33.79, พรีเมี่ยม GSH95 = 43.14, HSD-B7 = 32.44, HSD-B10 = 32.44, HSD-B20 = 32.44, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 41.56 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ทองคำขึ้น 300 บ. : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 32,350.00 ขายออกบาทละ 32.450.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 31,760.20 ขายออกบาทละ 32,950.00บาท ราคาทองคำขึ้น 300 บ. เมื่อเทียบกับวันที่ 2 พ.ค.
เงินบาทแข็งค่าขึ้น : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (3 พ.ค.) แข็งค่าขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 34.046 บาท บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 34.2054 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 42.9402 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.8706 บาทต่อ 1 ยูโร, 25.3744 บาท ต่อ 100 เยน, 4.3786 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.8620 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.7454 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
กกต.แจงเก็บบัตร ปชช. : สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงกรณีที่ปรากฏภาพข่าวการซื้อบัตรประชาชนที่จังหวัดอำนาจเจริญ ว่า จากการดำเนินการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าภาพการรวบรวมบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวนั้น เป็นการดำเนินการเพื่อกรอกข้อมูลในฐานข้อมูลการสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2566 หลังจากบันทึกข้อมูลเสร็จแล้วได้คืนบัตรประจำตัวประชาชนให้กับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม และภาพที่ปรากฏเป็นการนำภาพต่างเวลาต่างสถานที่รวมเป็นเรื่องเดียวกัน
พิธา แซง อุ๊งอิ๊งค์ : “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 3” พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 35.44 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) อันดับ 2 ร้อยละ 29.20 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 3 ร้อยละ 14.84 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) อันดับ 4 ร้อยละ 6.76 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 5 ร้อยละ 3.00 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อุ๊งอิ๊งค์ พร้อมลุยหาเสียง : น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แถลงหลังคลอดบุตรชาย ‘ธาษิณ’ พร้อมยุทธศาสตร์เลือกตั้งโค้งสุดท้าย โดยระบุว่า หลังจากนี้จะพยามลงพื้นที่ช่วยพรรคเพื่อไทย และยืนยันจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 12 พ.ค.นี้ แน่นอน ทั้งนี้ คิดว่าออกจากโรงพยายามได้เมื่อไหร่ ก็พร้อมลุยเมื่อนั้น เพื่อนำเสนอตัวเองให้ประชาชนตัดสินใจ พร้อมที่จะออกไปพบปะประชาชนเท่าที่ทำได้ ส่วนตัวพร้อมเป็นนายกฯ และนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกคนที่พร้อมด้วยเช่นกัน