สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 เม.ย. 66
ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
มีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.ยะลา (65 มม.) จ.แพร่ (47 มม.) และ จ.ตรัง (41 มม.)
น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 23,946 ล้าน ลบ.ม. (41%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 19,600 ล้าน ลบ.ม. (41%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
กอนช. เฝ้าระวังคุณภาพน้ำใช้อุปโภค-บริโภคให้เพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งนี้กอนช. เฝ้าระวังคุณภาพน้ำตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง 2565/2566 (มาตรการที่ 7 เฝ้าระวังคุณภาพน้ำ) เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำอุปโภค-บริโภคให้เพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ โดยการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เตรียมป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์คุณภาพน้ำในแหล่งน้ำดิบ เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งปริมาณน้ำดิบในแหล่งน้ำลดน้อยลงจากฝนทิ้งช่วง ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงส่งผลกระทบให้แหล่งน้ำดิบมีค่าความเค็ม (คลอไรด์) สูงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำบางปะกง (กปภ.สาขาฉะเชิงเทรา บางปะกง และปทุมธานี) ซึ่ง กปภ.ได้เตรียมแผนระยะสั้นและระยะยาวเพื่อจัดการคุณภาพน้ำดิบด้านความเค็มให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้การเก็บตัวอย่างน้ำดิบเพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำและค่าความเค็มให้เป็นไปตามมาตรฐาน (ค่าคลอไรด์ไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อฟลิตร)การเพิ่มความถี่ในการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำการวางแผนจ่ายน้ำจาก กปภ.สาขาใกล้เคียงที่ไม่ได้รับผลกระทบการสำรวจแหล่งน้ำดิบสำรองบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับกรมชลประทานและหน่วยงานส่วนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานความร่วมมือในการผลักดันน้ำเค็มและร่วมกันเฝ้าระวังคุณภาพน้ำให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อสุขอนามัยของประชาชนในทุกพื้นที่
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 19 เมษายน 2566 ดังนี้
ผลการดำเนินงานตาม 10 มาตรการ รองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ฤดูแล้ง ปี 2565/66
1.1 กองทัพบก เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่ บ.หนองตลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยทำการแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ให้กับประชาชนที่ขาดแคลนน้ำ จำนวนกว่า 12,000 ลิตร โดยได้รับการสนับสนุนน้ำจากหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
1.2 การประปาส่วนภูมิภาค ได้เตรียมป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์คุณภาพน้ำในแหล่งน้ำดิบอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งปริมาณน้ำดิบในแหล่งน้ำลดน้อยลงจากฝนทิ้งช่วง ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงส่งผลกระทบให้แหล่งน้ำดิบมีค่าความเค็มสูงขึ้น จึงได้มีการเตรียมแผนทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวเพื่อจัดการคุณภาพน้ำดิบด้านความเค็มในภาพรวมให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งได้บูรณาการการดำเนินงานร่วมกับกรมชลประทานและหน่วยงานส่วนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานความร่วมมือในการผลักดันน้ำเค็มและร่วมกันเฝ้าระวังคุณภาพน้ำให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อสุขอนามัยของประชาชนในทุกพื้นที่
สภาพอากาศ
ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด รวมถึงระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ส่วนลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง
แหล่งน้ำทั่วประเทศ
3.1 แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำใช้การ 23,946 ล้าน ลบ.ม. (41%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 19,560 ล้าน ลบ.ม. (41%) ขนาดกลาง 369 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 2,639 ล้าน ลบ.ม. (52%) และขนาดเล็ก 139,903 แห่ง ปริมาณน้ำใช้การ 1,749 ล้าน ลบ.ม. (34%)
3.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) ปริมาณน้ำใช้การ 7,272 ล้าน ลบ.ม. (40%)
ผลการจัดสรรน้ำ (สะสมตั้งแต่ 1 พ.ย. ถึงปัจจุบัน)
4.1 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถจัดสรรน้ำได้มีจำนวน 35 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้การทั้งสิ้น 19,480 ล้าน ลบ.ม. (41%) มีแผนการจัดสรรน้ำ 21,913 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 18,712 ล้าน ลบ.ม. (85%)
4.2 พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแผนการจัดสรรน้ำ 8,600 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 7,671 ล้าน ลบ.ม. (89%)