สรุปข่าวประจำ วันที่ 6 เมษายน 2566
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (5 เม.ย. ) ปิดที่ 33,482.72 จุด เพิ่มขึ้น 80.34 จุด (0.24%)) หุ้นแนสแดด ปิดที่ 12,967.20 จุด ลดลง 132.88 จุด (1.01%) เอสแอนด์พี ปิดที่ 4,090.38 จุด ลดลง 10.22 จุด (0.25%)
ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยนปิดตลาด(5 เม.ย.) ที่ระดับ 1,594.05 จุด ลดลง 6.32 จุด (0.39%) มูลค่าการซื้อขาย 41,645.31 ล้านบาท ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยนปิดตลาด(5 เม.ย.) ที่ระดับ 1,571.13 จุด ลดลง 22.92 จุด (1.44%) มูลค่าการซื้อขาย 48,882.58 ล้านบาท
น้ำมัน : PTT Station 0.60 บาท/ลิตร เว้น Super Power GSH95 ขึ้น 0.80 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 6 เม.ย. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG = 45.06, GSH95 = 37.25, E20 = 34.94, GSH91 = 36.98, E85 = 35.39, พรีเมี่ยม GSH95 = 44.74, HSD-B7 = 33.44, HSD-B10 = 33.44, HSD-B20 = 33.44, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 42.56 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
บางจากฯ ปรับราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด และ Hi Premium 97 +60 สต. สำหรับกลุ่มดีเซลทุกชนิดราคาคงเดิม BCP Retail Price : GSH95S EVO 37.25 / GSH91S EVO 36.98 / GSH E20S EVO 34.94 / GSH E85S EVO 35.39 / Hi Premium 97 (GSH95++) 47.14/ Hi Diesel B20S 33.44 / Hi Diesel S 33.44 / Hi Diesel S B7 33.44 / Hi Premium Diesel S B7 42.66 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม.)
ทองคำขึ้น 400 บาท : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 32,350.00 ขายออกบาทละ 32,450.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 31,760.20 บาท ขายออกบาทละ 32,950.00 บาท ราคาทองคำขึ้น 400 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 4 เม.ย.
เงินบาทแข็งค่าขึ้น : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (5 เม.ย.) แข็งค่าขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 33.932 บาท บาท บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 34.1132 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 42.8445 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.5616 บาทต่อ 1 ยูโร 26.1861 บาท ต่อ 100 เยน, 4.3696 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาท 25.9199 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.8315 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
ธนินท์ ยังรวยอันดับ 1 : นิตยสารฟอร์บ จัดอันดับมหาเศรษฐีทรัพย์สินเกินพันล้านดอลลาร์ทั่วโลก ปรากฏว่า มีคนไทยติดอันดับเข้าไปด้วย 28 คน และผู้ที่รวยสุดในไทย ยังคงเป็น ธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวแห่งอาณาจักรซีพี ส่วนมหาเศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสองของไทย คือ เจริญ สิริวัฒนภักดี วัย 78 ปี อันดับสามของไทยคือ สารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้กว้างขวางในธุรกิจพลังงาน วัย 57 ปี อันดับ 4-5 ของไทย มาจากตระกูลเจียรวนนท์ คือ สุเมธ เจียรวนนท์ อายุ 88 ปี และจรัญ เจียรวนนท์ วัย 93 ปี
เตือนระวังอากาศร้อน : นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูร้อน ทำให้กลางวันมีสภาพอากาศร้อนจัดซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง เป็นต้น เนื่องจากร่างกายจะขับความร้อนออกมาทางเหงื่อ ทำให้สูญเสียน้ำและเกลือแร่จำนวนมาก เกิดอาการเพลียแดด หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเป็นโรคลมแดดหรือฮีทสโตรกได้ โดยการวินิจฉัยว่าเป็นโรคฮีทสโตรกจะดูจาก
พท.เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ : พรรคเพื่อไทย นำโดยนายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ายื่นบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 รายชื่อ ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย โดยเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คน บนเวที “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน” ณ ธันเดอร์โดมสเตเดียม เมืองทองธานี
เสนอร่าง สลาก 6 หลัก : นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานสลากฯได้เสนอร่างประกาศ เรื่อง สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือแอล 6 พ.ศ.2566 ให้กระทรวงการคลังพิจารณา และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบตามขั้นตอนของกกฎหมายต่อไป คาดว่าปีนี้ จะมีสลากดิจิทัลบนแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง จำนวนประมาณ 25 ล้านใบต่องวด จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 18.78 ล้านใบ อย่างไรก็ดี จำนวนต้องสอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชนด้วย