ธนาคารโลกยันเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งปีนี้โต 3.6%
โฆษกรัฐบาลเผย ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 เติบโตร้อยละ 3.6 แรงหนุนจากการบริโภคภายในประเทศและการท่องเที่ยว รัฐบาลใช้ศักยภาพเด่นของไทยปฏิรูปเศรษฐกิจให้โตอย่างต่อเนื่อง และแบบมีเสถียรภาพ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ธนาคารโลกออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2566 จะเติบโตได้ร้อยละ 3.6 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่เติบโตร้อยละ 2.6 พร้อมประเมินว่าในปีหน้า (พ.ศ. 2567) เศรษฐกิจไทยจะเติบโตประมาณร้อยละ 3.7 ส่วนปี 2568 คาดว่าจะเติบโตได้ประมาณร้อยละ 3.5 ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของไทยในทุกด้าน เศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยฟื้นฟู ผลักดันเศรษฐกิจไทยให้โตอย่างมีเสถียรภาพ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในรายงานยังระบุว่า ประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก รวมทั้งไทย จะเติบโตเร็วขึ้นในปีนี้ เนื่องจากการกลับมาเปิดประเทศของจีน และมีเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น แม้จะยังมีอัตราเงินเฟ้อสูง และหนี้ครัวเรือนจะยังคงส่งผลกระทบต่อภาคการบริโภคในบางประเทศ ทั้งนี้ แรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยยังมาจากการบริโภคภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่ายอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 68 ของช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด รวมทั้งเสถียรภาพทางการคลังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จากสัดส่วนหนี้สาธารณะที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเชื่อว่าจะยังเติบโตได้ในระดับร้อยละ 3.5-3.7 เมื่อมองไปในระยะข้างหน้า โดยในรายงานมองว่า ไทยยังมีโอกาสที่จะเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจให้ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน เนื่องจากยังมีศักยภาพและเสถียรภาพด้านการเงิน และการคลัง ที่จะสามารถนำมาใช้ในการปฏิรูปเศรษฐกิจได้
“นายกรัฐมนตรี ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนฟื้นฟูผลักดันเศรษฐกิจ ยินดีเศรษฐกิจไทยได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวหลังการเปิดประเทศของจีน โดยในรายงานยังคาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 27 ล้านคน และในปีหน้าจะมีจำนวนสูงกว่าที่เดินทางเข้ามาในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมเดินหน้าใช้ศักยภาพเด่นของไทยปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง เป็นรูปธรรม และอย่างมีเสถียรภาพ” นายอนุชาฯ กล่าว