อีอีซี ไม่ชะลอ 2 เดือนปี66 ต่างชาติลงทุน 2 พันล้านบาท
“ทิพานัน”โชว์ผลงานเด่น “พล.อ.ประยุทธ์”ปั้น EEC ปังไม่หยุด! 2 เดือนแรกของปี 66 ต่างชาติหอบเงินลงทุนแล้วกว่า2,078 ล้านบาท ติง “เศรษฐา”อย่าตีหัวเข้าบ้าน ชี้เอาให้ชัดค้านขึ้นค่าตอบแทนอบต.-กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านหรือไม่
นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือบอร์ด EEC เร่งขับเคลื่อนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในพื้นที่ EEC เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทย ล่าสุดรายงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เกี่ยวกับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC เพิ่มอีกจำนวน 21 ราย คิดเป็นร้อยละ 19 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC กว่า 2,078 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8 ของเงินลงทุนทั้งหมด
ทั้งนี้ จำแนกเป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 7 ราย ลงทุน 1,352 ล้านบาท จีน 5 ราย ลงทุน 529 ล้านบาท ไต้หวัน 3 ราย ลงทุน 37 ล้านบาท และประเทศอื่นๆอีก 6 ราย ลงทุน 160 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ 1) บริการทางวิศวกรรมด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจวิศวกรรมยานยนต์ 2) บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนโลหะ และชิ้นส่วนพลาสติก และ 3) การค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ เป็นต้น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความสำเร็จของEEC และอนาคตของEEC ที่สดใส ทำให้มองเห็นอนาคตประเทศไทย จากความมุ่งมั่น ของพล.อ.ประยุทธ์ ในการยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาเมืองให้ทันสมัย บูรณาการทุกฝ่ายและใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เชื่อมโยงไทยกับภูมิภาคและทั่วโลก พลิกโฉมประเทศยกระดับเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ และทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชน ดีขึ้น
“พล.อ.ประยุทธ์มีผลงานที่ชัดเจน ทำให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นและไว้วางใจ สิ่งที่ทำแล้ว ทำอยู่และจะทำต่อไป โดยการผลักดันเรื่องต่างๆออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรีล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ทั้งขึ้นค่าตอบแทน อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สอดคล้องกับสถานการณ์และเหมาะสมกับภารกิจ ดังนั้น ฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่กังวลเรื่องวินัยการคลังนั้น หากไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าตอบแทนดังกล่าว ขอให้ประกาศนโยบายยกเลิกขึ้นค่าตอบแทนอย่างตรงไปตรงมา หรือจะเสนอให้ทบทวนหรือไม่อย่างไร ให้แสดงความคิดเห็นให้ชัด ไม่ใช่แสดงความเห็นในลักษณะตีหัวเข้าบ้าน” นางสาวทิพานัน กล่าว