แบงก์รัฐขานรับพ.ร.ก.โจรกรรมทางเทคโนโลยี
ธนาคารสมาชิกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐพร้อมดำเนินการ ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (The Government Financial Institutions Association : GFA) เปิดเผยว่า ธนาคารสมาชิกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐพร้อมดำเนินการตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม
ทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป โดยเฉพาะสถาบันการเงินของรัฐ 4 แห่งที่มีธุรกรรมด้านเงินฝากประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ไอแบงก์) จะเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ การเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าที่เกี่ยวข้องหากพบเหตุอันควรสงสัย หรือได้รับข้อมูลจากระบบหรือกระบวนการ รวมถึงระงับธุรกรรมนั้นไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่พบเหตุอันควรสงสัยหรือได้รับแจ้ง พร้อมให้เปิดเผยข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ และแจ้งให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพร้อมให้ความร่วมมือในการเร่งดำเนินการระงับการทำธุรกรรมเป็นการชั่วคราว หากได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และนำข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้ระงับการทำธุรกรรมดังกล่าวไว้ทันที และหากไม่มีคำสั่งให้ระงับการทำธุรกรรมไว้ต่อไปภายในระยะเวลาดังกล่าว สถาบันการเงินพร้อมยกเลิกการระงับการทำธุรกรรมนั้นต่อไป
ทั้งนี้ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เชื่อว่า พ.ร.ก.ที่ออกมานั้นจะส่งผลดีต่อประชาชน และสามารถลดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดหรือสงสัยว่าจะเป็นเหตุให้มีการกระทำความผิด สามารถแจ้งที่ศูนย์ Hot line ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สาขาของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง หรือ ผ่านทาง Call Center, Line@, Facebook, Website และ Mobile Application