ธ.ก.ส. เปิดหน่วยลงทะเบียนยืนยันตัวตน บัตรคนจน 1 มี.ค. นี้
ธ.ก.ส. เปิดหน่วยลงทะเบียนยืนยันตัวตน (E-KYC) ให้ผู้ผ่านเกณฑ์พิจารณาคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เพียงนำบัตรประชาชน Smart Card ยืนยันตัวตนผ่านเครื่อง EDC ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2566 – 27 ส.ค. 2566 พร้อมดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน เพื่อรับสิทธิสวัสดิการ แนะผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th https://welfare.mof.go.th เพื่อความรวดเร็วในการรับบริการ ส่วนผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ สามารถยื่นขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. – 1 พ.ค. 2566
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ส่งข้อมูลผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่มีสถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้กำหนดวันประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ในวันที่ 1 มี.ค. 2566 ซึ่งผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะลงทะเบียนสมบูรณ์จะสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. หรือผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน ทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัด ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา และสามารถสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านทาง Call Center ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ธ.ก.ส. ในฐานะหน่วยงานรับลงทะเบียนของโครงการฯ พร้อมดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงการคลัง โดยจัดเตรียมอัตรากำลัง การอบรมให้ความรู้ในการดำเนินงาน การจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์เพื่อให้บริการลงทะเบียนยืนยันตัวตน (E-KYC) สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ โดยผู้ผ่านเกณฑ์สามารถยืนยันตัวตนได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2566 จนถึงวันที่ 27 ส.ค. 2566 (180 วัน) ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน (Smart Card) มาใช้ในการยืนยันตัวตนผานเครื่อง EDC และต้องทำการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชน เพื่อรับสิทธิสวัสดิการ โดยสามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคารใดก็ได้
ในกรณีที่ผู้ลงทะเบียนไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ด้วยตนเอง สามารถดำเนินการโดยให้ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล และจัดเตรียมเอกสารเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนผ่านเครื่อง EDC ประกอบด้วย 1) บัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล 2) บัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ (ผู้ได้รับสิทธิ์) และ 3) หนังสือมอบอำนาจพร้อมลงลายมือชื่อผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ และเมื่อยืนยันตัวตนแล้ว สามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนได้ด้วยตนเองในวันทำการถัดไปผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา หรือ Call Center 02 555 0555
ทั้งนี้ ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จตั้งแต่วันที่ 1 – 26 มี.ค. 2566 จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2566 เป็นต้นไป และกรณีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มี.ค. 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด กรณีที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 สามารถยื่นขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. – 1 พ.ค. 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. และหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงานข้างต้น และติดตามผลการอุทธรณ์ได้ในวันที่ 20 มิ.ย. 2566
นายธนารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 มีผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาเข้าร่วมโครงการกว่า 14 ล้านคน ดังนั้นเพื่อความรวดเร็วในการใช้บริการและลดความเสี่ยงจากสถานการณ์โรคระบาดที่ยังคงอยู่ ธ.ก.ส.ขอแนะนำให้ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติการพิจารณาด้วยตนเองหรือให้บุตรหลานช่วยดำเนินการผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th และhttps://welfare.mof.go.th รวมถึงการพิจารณานัดหมายวันเวลาที่สะดวกกับสาขา เพื่อลดระยะเวลาในการรอและความแออัดที่สาขา หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555