สรรพากรเก็บรายได้ทะลุเป้า 6 หมื่นล้านบาท
กรมสรรพากรสามารถดึงผู้ค้าและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับออนไลน์เข้าสู่ระบบภาษีได้ถึง 2 แสนคน ในช่วงที่ผ่านมา
“ตอนนี้ ผมคิดว่า ผู้ประกอบการเข้าใจแล้วต้องเสียภาษีหรือไม่ และเสียอย่างไรให้เร็วและเป็นภาระน้อยที่สุด” นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าว
และกล่าวว่า ในปัจจุบันมีประชาชนที่ยื่นภาษีเงินได้บุคธรรมดาประมาณ 11 ล้านคน และในจำนวนนี้ ยื่นแบบออนไลน์และนอกระบบออนไลน์ ที่ต้องเสียภาษีให้แก่กรมสรรพากรมี 4 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เปลี่ยนแปลงมานานแล้ว เนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมา ล้วนแต่มีมาตรการภาษีช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบต่างๆ เช่น การยกเว้นภาษี การเพิ่มสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนซื้อแอลทีเอฟ และอาร์เอ็มเอฟ เป็นต้น
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ผู้ประกอบบการที่อยู่ในระบบออนไลน์ หรือนอกระบบออนไลน์ ต้องมีภาระภาษีเพื่อความยุติธรรม ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน กรมสรรพากรให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจออนไลน์อย่างมาก โดยได้ตั้งหน่วยงานใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อ 10-15 ปีที่แล้ว ได้ตั้งหน่วยงาน LTO เพื่อกำกับดูแลผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดหลักทรัพย์ และเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ได้สำนักงาน SME เพื่อดูแลผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อย
ล่าสุด ได้ตั้งกองสำรวจและติดตามธุรกิจนอกระบบหรือ สน. หน่วยงานใหม่ล่าสุด เพื่อติดตามผู้เสียภาษีกลุ่มนี้ อย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้หมายความว่า กรมจะไปรีดภาษีหรือถอนขนห่าน แต่จะให้เน้นเรื่องของการประนีประนอม การเปิดโอกาสให้มีการชี้แจงความผิดพลาดเพื่อเริ่มต้นกันใหม่ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจประเภทบุคคลธรรมดา
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในช่วง 4 เดือนของงบปี2566 (ต.ค.65-ม.ค.66) จัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณ 60,000 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจ แต่ยังตอบไม่ได้ว่า ตลอดปีงบประมาณ 2566 จะเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการมากน้อยแค่ไหน เพราะขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในอนาคต
โดยปีงบประมาณนี้ กรมได้รับมอบหมายจัดเก็บรายได้ 2.029 ล้านล้านบาท จากงบประมาณทั้งหมด 3.185 ล้านล้านบาท
แต่ยอมรับว่า แนวโน้มของเศรษฐกิจไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังที่ไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวและไวรัส โควิค19 คลี่คลาย โดยปีที่แล้ว (งบประมาปี2565) จัดเก็บรายได้จากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศได้มากขึ้น และบริษัทขนาดใหญ่มีกำไรเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงขึ้น
นายลวรณ กล่าวว่า “ปีนี้ เราเริ่มมองเห็นการบริโภคภาคประชาชนที่มีการฟื้นตัวมากขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวตามหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ของไทย โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เก็บได้เพิ่มมากขึ้น”
ส่วนประเด็นทางการเมือง ที่หลายพรรคการเมืองออกมาระบุว่า จะใช้เงินเพื่อดำเนินนโยบายหาเสียงนั้น อธิบดีกรมสรรพากร ไม่กล่าวถึง เพียงระบุว่า หากใช้เงินมากก็ต้องหาให้เก่ง (รายได้) ด้วย