ธ.ก.ส. ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.125 – 0.25% ตั้งแต่ 1 ก.พ. 66 เป็นต้นไป
ธ.ก.ส. ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ทั้ง MRR MLR และ MOR 0.125% – 0.25% ต่อปี ตามมติ กนง. เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.25% ต่อปี เป็น 1.50% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจไทย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2566 เป็นต้นไป
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนส.ค. 2565 จนถึงครั้งล่าสุดในวันที่ 25 ม.ค. 2566 รวมการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จำนวน 4 ครั้ง จากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ต่อปี มาอยู่ที่ 1.50% ต่อปีในปัจจุบัน ตามการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการอุปโภคบริโภคและการท่องเที่ยว
ซึ่ง ธ.ก.ส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีบทบาทในการดูแลภาคการเกษตรและการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็ง ได้ทำการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามนโยบายกระทรวงการคลังออกไปให้นานที่สุด เพื่อช่วยลดภาระให้เกษตรกรและผู้ประกอบการให้สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติในช่วงการฟื้นตัวหลังจากเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ขณะเดียวกันได้มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อให้ผู้ฝากได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมตามภาวะอัตราดอกเบี้ยในตลาด
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจไทย ธ.ก.ส. ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทเพิ่มขึ้น 0.125% – 0.25% ต่อปี ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายคนชั้นดี (MRR) ปรับเพิ่มขึ้น 0.125% ต่อปี จากปัจจุบันที่ 6.50% เป็น 6.625% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยลูกค้าสถาบันและนิติบุคคลชั้นดี (MLR) ปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ต่อปี จากปัจจุบันที่ 4.875% เป็น 5.125% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ต่อปี จากปัจจุบันที่ร้อยละ 6.25 เป็น 6.50% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ยังมีโครงการชำระดีมีคืน สำหรับลูกหนี้ที่ชำระหนี้ได้ตามปกติ และมีมาตรการในการดูแลและช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหาหนี้สินแบบครบวงจร ประกอบด้วย การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ เช่น มาตรการจ่ายดอกตัดต้น มาตรการจ่ายน้อย ผ่อนคลายได้ลดดอกเบี้ย และมาตรการทางด่วนลดหนี้ เป็นต้น เพื่อลดความกังวลใจในเรื่องหนี้ การให้คำปรึกษาด้านการจัดการหนี้ ทั้งในและนอกระบบ ควบคู่กับการเติมสินเชื่อใหม่ ภายใต้อัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายและการลงทุน อันนำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ธ.ก.ส. ใกล้บ้านท่านทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555