สรุปข่าวประจำวันที่ 22 มกราคม 2566
สวัสดีวันตรุษจีน 诸事吉祥 จู-สื่อ-กิ๊ก-เซี้ยง ขอให้มีความสิริมงคลทุกเรื่อง
ทองคำลง 100 บ. : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ29,750.00 ขายออกบาทละ 29,850.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 29,213.32 บาท ขายออกบาทละ 30,350 .00บาท ราคาทองคำลง 100 บ. เมื่อเทียบกับวันที่ 20 ม.ค.
เศรษฐา โชว์ตัว :
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย และคณะ ลงพื้นที่ย่านเยาวราชเนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีน ปี 2566 นายเศรษฐา กล่าวตอบสื่อมวลชนเพิ่มเติมว่าตอนนี้ตนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเรียบร้อย ได้มาช่วยคุณแพทองธารดูเรื่องเศรษฐกิจ มาดูเรื่องลดความเหลื่อมล้ำ ที่มีอยู่สูงมาในสังคมไทย ขอให้ขั้นเป็นตอนไป วันนี้ได้มีโอกาสมาฟังผู้ประกอบการรายย่อยรับทราบปัญหาจริงก็จะนำกลับไปช่วยกันคิดออกมาเป็นนโยบาย
ภูมิใจไทย เปิดนโยบาย กทม. :
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำทีม ”ภูมิใจไทย ภูมิใจกรุงเทพฯ” พรรคภูมิใจไทย เปิดนโยบายดูแลคนกรุงเทพฯ ทุกวัน ทุกเวลา และครอบคลุมทุกวัย เพื่อให้คนกรุงเทพฯภูมิใจ ด้วยนโยบาย 24 ชั่วโมง 7 วัน หรือ “ภูมิใจกรุงเทพฯ 24/7” เพื่อแก้ไขปัญหาให้คนกรุงเทพฯ ตอกย้ำแนวทาง “ภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” โดยยึดหลักการ “เพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย-ให้โอกาส” ล่าสุดวันนี้ พบว่ามีการติดป้ายนโยบาย “ภูมิใจกรุงเทพฯ 24/7” ตามจุดต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานครแล้ว เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เปิดนโยบายทีมภูมิใจไทย ภูมิใจกรุงเทพฯ ควบคู่กับป้ายแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยแต่ละเขตด้วย
กทม.ชี้จัดระเบียนสีลม :
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงชี้แจงกรณีการจัดระเบียบการทำการค้าบนทางเท้าถนนสีลม ว่า จากช่วงเวลาที่ผ่านมาทางเท้าของ กทม. มีผู้ค้าขายเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันมีผู้ทำการค้าบนทางเท้าประมาณ 700 แห่ง ผู้ค้าประมาณ 20,000 ราย หลังจากเข้ามาแล้ว สิ่งแรกที่มีการหารือพูดคุยกันคือการจัดระเบียบผู้ค้าที่อยู่บนทางเท้า โดยวัตถุประสงค์สำคัญของทางเท้านั้นเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ในการสัญจร ขณะเดียวกันทางเท้าก็มีกฎหมายที่ให้ประชาชนหรือผู้ค้าที่มีความประสงค์จะทำการค้าขายต้องขออนุญาต ซึ่งขั้นตอนการขออนุญาตก็มีอยู่ตามกระบวนการ
อิสระ แจงลาออก ปชป.
นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กชี้เเจงเรื่องการลาออกจาก ส.ส.ระบุว่า เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ได้ปรึกษาใคร และไม่ได้แจ้งให้ใครทราบล่วงหน้า เหตุผลคือ ปัจจุบันผมทำงาน 2 หน้าที่ คือ ส.ส. และคณะทำงานประธานรัฐสภา ตอนนี้เป็นโค้งสุดท้ายของสภาฯ คือเหลืออีกเดือนเศษ มีวาระงานของสภาอีกมาก ที่ผมอยากจะทุ่มเททำให้สำเร็จในฐานะคณะทำงานประธาน เมื่อมีคณะทำงานหลายคนลาออก ด้วยเหตุผลต่างกัน แต่ผมเองอยากสานต่องานของประธานรัฐสภาที่มีอยู่ให้สำเร็จ