สรุปข่าวประจำวันที่ 14 มกราคม 2566
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (13 ม.ค. ) ปิดที่ 34,302.61 จุด เพิ่มขึ้น 112.64 จุด (0.33%) เอสแอนด์พี ปิดที่ 3,999.09 จุด เพิ่มขึ้น 15.92 จุด (0.40%) หุ้นแนสแดด ปิดที่ 11,541.48 จุด เพิ่มขึ้น 81.87 จุด (0.71%) ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดตลาด(13 ม.ค.) ที่ระดับ 1,681.73 จุด ลดลง 5.72 จุด 0.34% มูลค่าการซื้อขาย 87,664.02 ล้านบาท
น้ำมัน :
PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.50 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 14 ม.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG = 42.66, GSH95 = 35.25, E20 = 33.34, GSH91 = 34.98, E85 = 33.79, พรีเมี่ยม GSH95 = 40.74, HSD-B7 = 34.94, HSD-B10 = 34.94, HSD-B20 = 34.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 43.66 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
14 ม.ค. 66 เวลา 05.00 น. บางจากฯ ปรับราคาน้ำมันเฉพาะแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด +50 สต. และผลิตภัณฑ์ไฮพรีเมียม 97 +30 สต. สำหรับกลุ่มดีเซลราคาคงเดิม BCP Retail Price : GSH95S EVO 35.25 / GSH91S EVO 34.98 / GSH E20S EVO 33.34 / GSH E85S EVO 33.79 / Hi Premium 97 (GSH95++) 42.54 / Hi Diesel B20S 34.94 / Hi Diesel S 34.94 / Hi Diesel S B7 34.94 / Hi Premium Diesel S B7 43.66 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม.)
ทองคำลง 50 บ. : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 29,650.00 ขายออกบาทละ 29,750.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 29,122.36 บาท ขายออกบาทละ 30,250 .00บาท ราคาทองคำลง 50 บ. เมื่อเทียบกับวันที่ 12 ม.ค.
เงินบาทแข็งค่าขึ้น : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (13 ม.ค.) แข็งค่าขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 33.143 บาท บาท บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 33.2912 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 40.8567 บาทต่อ 1 ปอนด์, 36.2920 บาทต่อ 1 ยูโร , 26.0943 บาท ต่อ 100 เยน, 4.2874 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาท 25.3451 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.7484 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
เพจป้อมโผล่ :
ปรากฏเพจเฟซบุ๊ก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ “จดหมายเปิดใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” ตอนหนึ่งว่า สำหรับผม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขอประกาศในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะขอรับผิดชอบและจะไม่มีวันทอดทิ้งสมาชิกพรรคทุกคน ที่เคยทำงานการเมืองมาด้วยกัน และพร้อมจะเดินนำทุกคนที่มีความเชื่อมั่นในความตั้งใจอันแน่วแน่ของผม เข้าสู่การเลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตยต่อไป เพื่อกลับมาเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบริหารบ้านเมืองอีกครั้ง
ส.ว.แก้นายกฯ 8 ปี
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เปิดเผยว่า กมธ. การพัฒนาการเมืองฯ มีแนวคิดกำลังจะพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ว่าด้วยวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนายกฯ ได้ครบวาระ 4 ปี ว่า “คนดีอยู่เกิน 8 ปี ไม่เป็นไร แต่ถ้าได้นายกฯ ไม่ดี ผมไม่ขอเจาะจงว่า เป็นใคร ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเอง ประเด็นนี้ ส.ว.หลายคนสนับสนุนให้แก้ไข รวมถึงประเด็นที่จะล็อคส.ส. ห้ามดำรงตำแหน่งใดๆ หลังพ้นตำแหน่งภายในระยะเวลา 2 ปีด้วย”
หลาน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอี่ยว ‘ตู้ห่าว’ :
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีหลานชายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ที่มีชื่อในบริษัทที่เกี่ยวพันกับบริษัทรถทัวร์ ในธุรกิจของชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว โดยระบุว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ได้บรรจุไว้ในสำนวนที่ส่งให้อัยการสูงสุด เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในปี 2562 ส่วนเรื่องในสำนวนนั้นได้รวบรวมจนครบตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป