สรุปข่าวประจำวันที่ 6 มกราคม 2566
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (5 ม.ค. ) ปิดที่ 32,930.08 จุด ลดลง 339.69 จุด (1.02%)เอสแอนด์พี ปิดที่ 3,808.10 จุด ลดลง 44.87 จุด(1.16%) หุ้นแนสแดด ปิดที่ 10,741.22 จุด ลดลง 173.58 จุด (1.59%)ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดตลาด(5 ธ.ค.) ที่ระดับ 1,663.86 จุด ลดลง 9.39 จุด (0.56%)มูลค่าการซื้อขาย 85,211.49 ล้านบาท
น้ำมัน : PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 0.30 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 6 ม.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG = 42.16, GSH95 = 34.75, E20 = 32.84, GSH91 = 34.48, E85 = 32.99, พรีเมี่ยม GSH95 = 40.24, HSD-B7 = 34.94, HSD-B10 = 34.94, HSD-B20 = 34.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 43.66 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
6 ม.ค. 66 เวลา 05.00 น. บางจากฯ ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดและไฮพรีเมียม 97 -30 สต. สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มดีเซลราคาคงเดิม BCP Retail Price : GSH95S EVO 34.75 / GSH91S EVO 34.48 / GSH E20S EVO 32.84 / GSH E85S EVO 32.99 / Hi Premium 97 (GSH95++) 42.24 / Hi Diesel B20S 34.94 / Hi Diesel S 34.94 / Hi Diesel S B7 34.94 / Hi Premium Diesel S B7 43.66 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม.)
ทองคำลง 200 บ. : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 29,650.00 ขายออกบาทละ 29,750.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 30,250.00บาท ขายออกบาทละ 30,250 .00บาท ราคาทองคำลง 200 บ. เมื่อเทียบกับวันที่ 4 ม.ค.
เงินบาทแข็งค่าขึ้น : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (5 ม.ค.) แข็งค่าขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 33.882 บาท บาท บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 34.0462 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 41.2527 บาทต่อ 1 ปอนด์, 36.3323 บาทต่อ 1 ยูโร , 26.0316 บาท ต่อ 100 เยน, 4.3799 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาท 25.5643 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.8081 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
ประชากรทั่วไทย 66 ล้านคน :
กรมการปกครอง ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่องจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 โดยพบว่า ทั่วประเทศมีจำนวนราษฎร รวมทั้งสิ้นจำนวน 66,090,475 คน เป็นสัญชาติไทย จำนวน 65,106,481 คน แบ่งเป็นชาย จำนวน 31,755,072 คน หญิง จำนวน 33,351,449 คน จำนวนราษฎรไม่ได้สัญชาติไทย 983,994 คน แบ่งเป็น ชาย 515,583 คน หญิง 468,411 คน
ประภัสร์ สงสัย 33 ล้านเปลี่ยนป้าย :
นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย อดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการใช้งบประมาณ 33 ล้านบาท ในการเปลี่ยนชื่อป้ายสถานีกลางบางซื่อ ว่า ราคาการเปลี่ยนป้ายดังกล่าวอาจจะแพงเกินไป โดยเฉพาะค่าสถาปัตยกรรมถึง 24 ล้านบาท ค่าทำตัวหนังสือแต่ละตัว แพงขนาดนั้นหรือ และสถานีนี้มีการติดตั้งป้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เหตุใดจึงมีการเร่งดำเนินการในเดือนธันวาคม 2565 ผ่านวิธีการประมูลแบบ ‘เฉพาะเจาะจง’
ศรีร้องสอบเปลี่ยนป้าย :
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน/ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ขอให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน กรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่าจ้างบริษัทเอกชนจัดทำและเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของ รฟท.ในราคากว่า 33 ล้านบาท โครตแพงเกินไปหรือไม่ โดยพบข้อพิรุธหลายประการ จากการที่ รฟท. ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างด้วย “วิธีเฉพาะเจาะจง” ทำให้ไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ทำให้ได้ผู้รับจ้างในราคาสูงเกินสมควร
กสม.จี้ สอบปลัด มท. :
นางสาวสุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงการตำหนิผู้ใต้บังคับบัญชาของปลัดกระทรวงมหาดไทยในการประชุมข้าราชการกระทรวงฯ ซึ่งปรากฏกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันอย่างกว้างขวาง ว่า กสม.เห็นว่า เรื่องนี้ ผู้บังคับบัญชาของปลัดกระทรวงมหาดไทยควรจะเร่งตรวจสอบและดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจอย่างเคร่งครัดเพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตามหลักสิทธิมนุษยชนต่อไป