สรุปข่าวประจำวันที่ 15 ธันวาคม 2565
เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในวันพุธ(14ธ.ค.) แต่คาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกอย่างน้อยๆ 0.75% ในช่วงสิ้นปีหน้า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ในปีนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ เวลานี้อยู่ที่ระดับ 4.25% ถึง 4.50% สูงสุดในรอบ 15 ปี
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (14 ธ.ค. ) ปิด 33,966.35 จุด ลดลง 142.29 จุด (0.42%) เอสแอนด์พี ปิดที่ 3,995.32 จุด ลดลง 24.33 จุด (0.61%)หุ้นแนสแดด ปิดที่ 11,740.92 จุด ลดลง 93.28 จุด (0.79%) ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดตลาด(14 ธ.ค.) ที่ระดับ 1,633.36 จุด เพิ่มขึ้น 7.45 จุด (0.46%)มูลค่าการซื้อขาย 57,303.53 ล้านบาท
น้ำมันโลก-ไทย : สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ บวก 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.30 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค. 65) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่นวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 41.86 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 34.45 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 34.18 บาท, E20 ลิตรละ 32.54 บาท และ E85 ลิตรละ 32.69 บาท
ส่วนน้ำมันพรีเมี่ยมดีเซล B7 ลิตรละ 43.66 บาท ขณะที่ดีเซล B20 และดีเซล B7 ราคาคงเดิม ลิตรละ 34.94 บาท
ทองคำขึ้น 200 บาท : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 29,550.00 ขายออกบาทละ 29,65.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 29,016.24 บาท ขายออกบาทละ 30,150 .00บาท ราคาทองขึ้น 200 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 13 ธ.ค.
เงินบาทแข็งค่าขึ้น : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ ( 14 ธ.ค.) แข็งค่าขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 34.614 บาท บาท บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 34.7803 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.1860 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.1503 บาทต่อ 1 ยูโร , 25.9050 บาท ต่อ 100 เยน, 4.4955 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาท 25.9694 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.9698 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
คุกเสี่ยโป้ 50 ปี :
ศาลอาญารัชดา พิพากษา นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ มีความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 1 กระทง จำคุก 3 เดือน ฐานเป็นเจ้ามือ จำนวน 3 กระทง จำคุก 3 เดือน ฐานช่วยประกาศโฆษณาชักชวน ให้เข้าเล่นพนัน จำนวน 14 กระทง จำคุกกระทงละ 3 เดือน รวมจำคุก 48 เดือน และฐานฟอกเงิน จำนวน 25 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 50 ปี รวม 4 ฐานความผิด เป็นจำคุก 50 ปี 48 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุก กระทงความผิดแล้ว คงลงโทษได้ไม่เกินเพดานโทษจำคุก 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2)
การจ้างงานดีขึ้น :
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงภาวะสังคมไทยในไตรมาส 3 ปี 2565 ว่า การจ้างงานในไตรมาส 3 ปี 2565 ภาพรวมมีจำนวนทั้งสิ้น 39.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม ที่ 4.3% ภาคเกษตรกรรมมีการจ้างงาน 12.4 ล้านคน ลดลง 2.4% จากผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย ส่วนการว่างงานปรับตัวดีขึ้น โดยผู้ว่างงานมีจำนวน 4.9 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน 1.23%
สร้างอนาคตไทย ยังเดินหน้า :
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการดีลควบรวมพรรคและการย้ายออกของคนในพรรคสร้างอนาคตไทย ว่า พรรคสร้างอนาคตไทยยังเดินหน้าทางการเมืองเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตนขอย้ำว่า พรรคไม่ได้มีปัญหาใดๆ และไม่ได้เป็นไปตามกระแสข่าวต่างๆ พรรคอยู่ในการปรับยุทธศาสตร์ให้สอดรับกับสถานการณ์ ส่วนกรณีการพูดคุยเจรจากับพรรคการเมืองตามเป็นข่าวนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งคาดว่าพรรคจะมีการเปิดเผยข่าวดีในเร็วๆนี้
ตั๊น ปัด ล้มจุรินทร์ :
นางสาวจิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเป็น 5 ใน 6 คนของรองเลขาธิการพรรค ที่ร่วมก่อการเข้าชื่อเพื่อกดดันให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคลาออกจากตำแหน่งนั้นว่า ขอปฏิเสธว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวดำเนินการใดในพรรคในลักษณะที่ถูกโยงชื่อและภาพข่าวตามที่ถูกกล่าวหา ตระหนักดีว่า ในห้วงเวลาที่เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งที่ทุกพรรคการเมืองต้องเตรียมความพร้อม ทั้งนโยบายในการรณรงค์หาเสียง และคัดสรรว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคเพื่อสู้ศึกการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
