สรรพสามิตรายได้ทะลุเป้า
“เอกนิติ” เผยประชาชนบริโภคมากขึ้นทั้งเหล้า เบียร์และบุหรี่ เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส และส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มอย่างต่อเนื่อง คาดปีนี้ 25,000 คัน ปีหน้า 30,000 คัน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ2566 (ต.ค.-พ.ย.) โดยผลการจัดเก็บรายได้ (หักภาษีน้ำมัน) ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ2566 เท่ากับ 59,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 5,266 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนเป็นการชั่วคราว ในช่วงที่ระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกยังทรงตัวในระดับสูง กรมสรรพสามิตได้ปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล ตามมติ ครม. ส่งผลให้ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ2566 เท่ากับ 75,639 ล้านบาท ลดลง 9.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 13,423 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับลดภาษีน้ำมันดีเซล
“ผลจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ช่วงนี้ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนมีการบริโภคมากขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ และคริสต์มาส โดยกลุ่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เช่น สุราและเบียร์ รวมถึงบุหรี่ เราจัดเก็บรายได้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ ภาษีน้ำมันที่ลดลง ทำให้กรมฯ มีรายได้หายไปประมาณเดือนละ 10,000 ล้านบาท”
นอกจากนี้ รายได้จากภาษีรถยนต์ก็มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ล่าสุดรถยนต์อีวีจากค่ายต่างที่เข้าร่วมกับกรมฯ มีทั้งหมด 13 รายแล้ว โดยกรมสรรสามิตจ่ายเงินชดเชยไปแล้ว 545 คันวงเงิน 81 ล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาอีก 1,200 คัน เป็นเงิน 194 ล้านบาท จากยอดจองรถยนต์ทั้งหมด 25,000 คัน โดยในปี2566-2567 ตั้งเป้าชดเชยรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 30,000 คัน วงเงิน 10,000 ล้านบาท