ธ.ก.ส. นำทัพสถาบันการเงินของรัฐ สัญจรไปที่ขอนแก่น 18 – 20 พ.ย.นี้
ธ.ก.ส. ผนึกกำลังสถาบันการเงินของรัฐ สัญจรไปแก้ไขปัญหาหนี้พี่น้องอีสานในงาน “มหกรรมร่วมใจ แก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีปัญหาหนี้ได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินครบวงจร พร้อมมาตรการในการช่วยเหลือและลดภาระด้านหนี้สิน
การให้คำปรึกษาทางการเงิน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โครงการชำระดีมีคืนพลัส มาตรการจ่ายดอกตัดต้น มาตรการผ่อนปรนและดูแลลูกค้า (Care Plus 65) มาตรการจ่ายน้อย ผ่อนคลายได้ลดดอกเบี้ย และมาตรการทางด่วนลดหนี้ พร้อมเติมทุนในการเสริมสร้างอาชีพในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 พิเศษ ! สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนแอปพลิเคชัน A-Mobile Plus หรือเพิ่มเพื่อน Line Official @BAACFAMILY หรือยืนยันตัวตนผ่านบริการ e-KYC รับของที่ระลึกสุดพิเศษ และแคมเปญพิเศษ WoW WoW WoW รับส่วนลดทันที 3 ต่อ ณ ฮอลล์ 2 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น (KICE) 18 – 20 พ.ย. นี้
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน กระทรวงการคลังจึงผนึกความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และสถาบันการเงินของรัฐ จัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืนสัญจร ครั้งที่ 2ระหว่างวันที่ 18 – 20 พ.ย. 2565 ณ ฮอลล์ 2 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น (KICE) โดย ธ.ก.ส. ได้รับมอบหมายในการเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวให้สามารถประกอบอาชีพ เสริมสร้างรายได้ ตลอดจนการเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการหนี้โดยมิเป็นภาระหนัก โดย ธ.ก.ส. พร้อมให้คำปรึกษาทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้อย่างยั่งยืน รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ที่จะเข้าไปดูแลด้านภาระหนี้สินของเกษตรกรลูกค้า ประกอบด้วยการลดความกังวลใจเรื่องหนี้ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยกำหนดชำระหนี้ตามศักยภาพที่แท้จริง ควบคู่การแบ่งเบาภาระหนี้ผ่านมาตรการจ่ายดอกตัดต้น กรณีลูกค้าส่งชำระหนี้ ธนาคารจะแบ่งภาระการตัดชำระหนี้ตามสัดส่วนต้นเงินและดอกเบี้ย มาตรการผ่อนปรนและดูแลลูกค้า (Care Plus 65) มาตรการจ่ายน้อย ผ่อนคลายได้ลดดอกเบี้ย และมาตรการทางด่วนลดหนี้ ซึ่งแต่ละมาตรการจะเข้าไปแก้ปัญหาหนี้สินของลูกค้าแต่ละคนที่อาจมีภาระหนี้ที่แตกต่างกัน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขได้อย่างตรงจุด
นายธนารัตน์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อดูแลแก้ไขปัญหาหนี้ตามมาตรการต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ธ.ก.ส. ได้วางแนวทางในการเสริมสภาพคล่องผ่านโครงการชำระดีมีคืนพลัส สำหรับลูกค้าที่ชำระหนี้ถึงกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยคืนในอัตรา 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท การแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน ผ่านโมเดล การจัดการ-ออกแบบเชิงพื้นที่ D&MBA (Design and Manage by Area) โดยคนในชุมชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ควบคู่กับการเติมความรู้ด้านการเงิน การลงทุน การฝึกปฏิบัติเพิ่มทักษะ ทั้งอาชีพเดิม อาชีพเสริม อาชีพใหม่ การปรับเปลี่ยนการผลิตไปปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง การลดต้นทุนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต การยกระดับมาตรฐานสินค้า เพื่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว เป็นต้น และยังมีการจัดกิจกรรมเสวนา โดยมีผู้ประกอบการเกษตรและเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในการแก้ไขปัญหาหนี้สินและประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยพิธีกรชื่อดังจากรายการไอเดียเกษตร คุณนิลาวัณย์ พาณิชย์รุ่งเรือง พร้อมช่วงให้ความรู้ทางการเงิน ทั้งเทคนิคการบริหารเงิน การจัดการหนี้ และส่งเสริมการออม โดยกูรูทางการเงินชื่อดัง พร้อมกิจกรรมร่วมสนุกและรับของที่ระลึกมากมาย ณ เวทีกลาง
นอกจากนี้ ยังนำผลิตภัณฑ์สินเชื่อภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรนมาช่วยเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายและการลงทุน เช่น สินเชื่อนวัตกรรมดีมีเงินทุน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าลงทุนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้กับผู้ประกอบการและ Smart Farmer อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ เพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี เป็นต้น รวมถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝาก กองทุนทวีสุข และพิเศษ ! เฉพาะในงาน สำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการชำระดีมีคืน ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการทางด่วนลดหนี้และลงทะเบียนแอปพลิเคชัน A-Mobile Plus หรือเพิ่มเพื่อน Line Official Account @BAACFAMILY หรือยืนยันตัวตนผ่าน e-KYC รับของที่ระลึกสุดพิเศษจาก ธ.ก.ส. และพบกับแคมเปญพิเศษ “WoW WoW WoW” รับบริการให้คำปรึกษาสินเชื่อพร้อมรับส่วนลดพิเศษค่าธรรมเนียมและของที่ระลึกถึง 4 ต่อ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมการออกบัตร ATM ส่วนลดค่าธรรมเนียมการประเมินที่ดินและส่วนลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์โครงการ เป็นต้น