ออมสิน-ธอส.ปล่อยกู้บ้านฯประชารัฐ
2 แบงก์รัฐ “ออมสิน-ธอส.” นำร่องเดินหน้าโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” เตรียมวงเงินกู้รวมกัน 4,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ 3 ปีแรกที่ 2.75% เกิน 4 ปี คิด MRR ลบ 0.75-1.00% เผยให้กู้ทั้งโครงการและผู้ซื้อรายย่อย ที่อยู่อาศัย 3 แบบ “บ้านแฝด บ้านแถว และอาคารชุดพักอาศัย” ราคา3.5 – 7 แสนบาท นำร่อง 5 จังหวัด
นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วย ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผอ.ธนาคารออมสิน และนายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมลงในสนับสนุนด้านสินเชื่อให้กับโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองบนที่ราชพัสดุ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.62 ณ ห้องประชุมกรมธนารักษ์ ชั้น 8 อาคาร 72 ปี
ดร.ชาติชายกล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ม.ค.61 เห็นชอบให้ธนาคาฯดำเนินโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองบนที่ราชพัสดุและเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองราคาไม่เกินหน่วยละ 700,000 บาท ในกรอบวงเงินโครงการรวม 4,000 ล้านบาท โดยธนาคารฯเป็นแหล่งทุน ทั้งให้สินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ซื้อรายย่อย (Post Finance) โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการสำหรับผู้ซื้อรายย่อย 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ประชาชนที่อยู่ในทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 2.ประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อคนต่อเดือน และ 3.ประชาชนทั่วไป
“ธนาคารฯมีความยินดีและมีความพร้อมในการสนับสนุนสินเชื่อโครงการนี้ ทั้งการให้สินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ซื้อรายย่อย ซึ่งธนาคารฯได้ประสานงานในการดำเนินโครงการกับกรมธนารักษ์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้น หลังจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายในเรื่องนี้” ดร.ชาติชายย้ำ
สำหรับรูปแบบที่อยู่อาศัยโครงการนั้นแบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ บ้านแฝด บ้านแถว และอาคารชุดพักอาศัย กำหนดพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร ราคาหน่วยละประมาณ 350,000-700,000 บาท โดยธนาคารฯอยู่ระหว่างพิจารณาสินเชื่อโครงการฯ ให้ผู้ประกอบการจำนวน 3 ราย ใน 5 พื้นที่ได้แก่ จ.ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ เชียงราย และขอนแก่น ซึ่งก่อสร้างในรูปแบบอาคารพักอาศัย (ห้องชุด) และบ้านแฝดชั้นเดียว รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1,564 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างประมาณ 2,302 ยูนิต โดยมีผู้สนใจ 4,953 ราย ได้จองสิทธิกับผู้ประกอบการรวม 2,210 ราย แบ่งเป็นกลุ่มสวัสดิการแห่งรัฐ 512 ราย กลุ่มผู้มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อคนต่อเดือน 1,674 ราย และกลุ่มประชาชนทั่วไปอีก 5 ราย
ขณะที่ สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการ ธนาคารออมสินปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% เป็นเวลา 3 ปี โดยหลังจากปีที่ 4 เป็นต้นไป จะคิดดอกเบี้ย MLR -1 ต่อปี ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 5 ปี (ปัจจุบัน MLR ของธนาคารออมสิน = 6.50%) ส่วนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ซื้อรายย่อย กำหนดอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-4 คงที่ 2.75% ต่อปี ปีที่ 5 เป็นต้นไป ขณะที่กรายย่อย คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.75 ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารออมสิน ปัจจุบัน = 7.00% ต่อปี) ส่วนกรณีสวัสดิการหักเงินเดือนคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-1% ต่อปี ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปี
ด้านนายฉัตรชัย กล่าวว่า ธอส. พร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำในโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” บนที่ดินราชพัสดุ ร่วมกับธนาคารออมสิน ด้วยกรอบวงเงินรวมกันไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ให้แก่ผู้เช่าที่ราชพัสดุ แบ่งเป็น 1.สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย(Pre Finance) อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ปีที่ 1 – 3 เท่ากับ 3.00% ต่อปี และ 2.สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ปีที่ 1 – 4 เท่ากับ 2.75 % ต่อปี.