“บสย.- KOTEC” ขยายร่วมมือรับทุนเกาหลี
บสย.ขยายความร่วมมือกับ KOTEC บนภารกิจ “ส่งเสริม – แลกเปลี่ยน – เชื่อมโยงข้อมูล” ทางด้านระบบการค้ำประกันสินเชื่อ หนุนนักลงทุนแดนกิมจิ เพิ่มโอกาสขยายการลงทุนในไทย รับ EEC เผยตัวเลขลงทุนตรงจากเกาหลีใต้เมื่อปีก่อน พุ่งกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กก.ผจก.ทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า บสย.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบการค้ำประกันสินเชื่อ ร่วมกับ นายจอง ยุนโม ปธ.และกก.ผจก.ใหญ่ KOTEC (Korea Technology Finance Corporation) สถาบันค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่ม Start-up และ Innovation ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวง SMEs และ Startups แห่งสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ และความชำนาญของ 2 สถาบัน ว่า บสย.
ทั้งนี้ เมื่อปี 2557 KOTEC และ บสย. ได้ร่วมมือกันจัดทำโครงการจัดตั้งศูนย์ระบบประเมินเทคโนโลยีของประเทศไทย (Thailand Technology Rating System-TTRS) โดยพัฒนาโมเดลการประเมินเทคโนโลยีที่เรียกว่า Thailand Technology Rating System หรือ TTRS ซึ่งได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์จากรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยการพัฒนาเครื่องมือ TTRS นี้ เพื่อนำมาประเมินเทคโนโลยีของผู้ประกอบการทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งผู้ผ่านการประเมินในโครงการฯ จะได้รับโอกาสรับสินเชื่อจากธนาคารและการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย.
โดยความร่วมมือดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นให้ บสย. และ KOTEC ขยายความสัมพันธ์ในการแลกเปลี่ยนความรู้และความช่วยเหลือด้านค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ของ 2 ชาติมากขึ้น โดยเฉพาะโอกาสในอนาคต ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ในกรณีที่มี SMEs ลงทุนข้ามประเทศ ทั้งนี้ จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า มีมูลค่าการลงทุนในปี 2561 จากประเทศเกาหลีมีมูลค่า สูงกว่า 54,000 ล้านบาท จึงเป็นโอกาสที่ดีในการยกระดับความร่วมมือของ 2 ประเทศ
ด้านนายจอง ยุนโม กล่าวว่า ข้อตกลงความร่วมมือนี้ จะครอบคลุมทั้งด้านการส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งเชิงวิชาการ องค์ความรู้ การถ่ายทอดความรู้ด้านการค้ำประกันสินเชื่อ รวมถึงโครงการใหม่ๆ ในอนาคต อาทิ การเปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อที่เกิดประโยชน์ร่วมกันมากขึ้น และการสนับสนุนทางการเงินโดยตรงจากสถาบันการรับประกันในประเทศหากมีการเปิดตัวการให้สิทธิพิเศษร่วมกันในอนาคต.