ก.อุตฯเดินหน้า จิตอาสาพิทักษ์ศาสนสถาน
กระทรวงอุตสาหกรรม คิกออฟ โครงการจิตอาสาฯ ระดมผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบระบบไฟฟ้าโบราณสถานทั่วประเทศ
นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้อำนวยการศูนย์จิตอาสากระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้นำเสนอโครงการ ” จิตอาสาพิทักษ์ศาสนสถาน ” เฉลิมพระเกียรติเนื่องในปีมหามงคลพระบรมราชาภิเษก และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ต่อศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอัคคีภัยจากระบบไฟฟ้าอาคารและสิ่งก่อสร้างของวัดพระอารามหลวง มัสยิด โบสถ์คริสต์ ตลอดจนโบราณสถานที่สำคัญของประเทศ และพลเรือเอกปวิตร รุจิเทศ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ผอ.ศอญ.จอส.) ได้เห็นชอบและมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินงานโครงการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยให้เริ่มดำเนินงานโครงการในวันนี้ (3 มิ.ย.62) ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระราชินีฯ เป็นวันแรกและจะดำเนินงานพร้อมกันทั่วประเทศ
ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เริ่มดำเนินโครงการฯโดยการร่วมตรวจสอบระบบไฟฟ้า และให้คำปรึกษาแนะนำด้านความปลอดภัยแก่วัดพระอารามหลวง มัสยิด โบสถ์คริสต์ ตลอดจนโบราณสถานที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรม มีวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งในสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัด กรมโรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนเครือข่ายเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยประจำโรงงานต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงของการบูรณะซ่อมแซม จิตอาสาฯ จะช่วยดูแบบ แผนงานและแนะนำวิธีปฏิบัติที่ดีอีกทางหนึ่ง อันเป็นป้องกันรักษาโบราณสถานฯ ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ไว้ให้ลูกหลานไว้ได้ศึกษาและเป็นสถานที่ซึ่งเคารพบูชาอยู่คู่บ้านเมือง ได้ร่วมสืบสานประวัติศาสตร์และความภาคภูมิใจต่อไป
“เป้าหมายของการดำเนินการ ข้อแรกคือเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ข้อสองคือ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยแลละลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอัคคีภัยจากระบบไฟฟ้าอาคารและสิ่งก่อสร้าง ข้อสามคือ เพื่อป้องกันความสูญเสียด้านชีวิตและทรัพย์สินของพระอารามหลวงและมัสยิด โบสถ์คริสต์ ที่สำคัญในพื้นที่ต่างๆ ข้อสี่ คือ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับบุคลากรในสถานที่ดังกล่าว ในด้านการบำรุงรักษา การป้องกันและระงับเหตุอัคคีภัย และข้อสุดท้าย คือ การให้จิตอาสาผู้มีความรู้ทางด้านระบบไฟฟ้า เช่น วิศวกรไฟฟ้า ช่างเทคนิค และประชาชนทั่วไปที่มีความรู้ด้านระบบไฟฟ้า ได้ร่วมทำความดีด้วยใจ โดยมีพื้นที่ดำเนินการครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนจังหวัดละ 69 แห่ง รวมทั้งสิ้น 5,313 แห่ง โดยจะเริ่มดำเนินการในวันนี้ (3 มิ.ย.62) เป็นวันแรก ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบความปลอดภัยระบบไฟฟ้า ณ โบสถ์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร โบสถ์วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรมหาวิหาร และโบสถ์วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ โดยการดำเนินการตามโครงการนี้จะมีไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2563 รวมระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี 1 เดือน 3 วัน”
นายสุรพล ยังได้กล่าวอีกว่า กระทรวงฯยินดีและพร้อมเป็นแกนกลางในการระดมจิตอาสาผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงฯ และบุคลากรภายนอก เพื่อเข้าตรวจสอบระบบไฟฟ้า และดูแลให้คำปรึกษาแนะนำด้านความปลอดภัยหากอยู่ในช่วงระหว่างการบูรณะซ่อมแซม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยกระทรวงฯ จะนำเสนอโครงการ“กิจกรรมจิตอาสาพิทักษ์โบราณสถาน” ไปยังศูนย์อำนวยการใหญ่โครงการจิตอาสา พระราชทานตามแนวพระราชดำริ (ศอญ.) สำหรับส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคจะมอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดระดมผู้เชี่ยวชาญเป็นทีมจิตอาสาในพื้นที่ และนำเสนอโครงการฯ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเข้าดำเนินการต่อไป