คปภ.บี้ติดประกันจ่ายเยียวยาเหตุชนเมืองนนท์
คปภ. เร่งติดตามจ่ายค่าสินไหมประกันให้กับผู้เสียชีวิต-ผู้บาดเจ็บ กรณีรถเบนซ์ พุ่งชน “รถกระบะ-รถเก๋ง-รถจักรยานยนต์ ย่านเมืองนนท์
กรณีรถยนต์เบนซ์ CLS 250 สีดำ หมายเลขทะเบียน ญฒ 513 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวม 3 คัน บริเวณถนนงามวงศ์วาน ขาออกมุ่งหน้าแยกแคราย ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 28 พ.ค. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 8 คนนั้น เบื้องต้น ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับสำนักงาน คปภ. ภาค 7 (นครปฐม) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนนทบุรี ติดตามและรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วน ผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
โดยให้ประสานความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 8 ราย ได้มีการทำประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดนนทบุรี ว่า รถยนต์เบนซ์ดังกล่าว ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.นวกิจประกันภัย สิ้นสุดวันที่ 25 พ.ค.63 โดยให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัย กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีความเสียหาย ต่อร่างกายหรืออนามัย 80,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน จำนวน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่ารถยนต์เบนซ์คันดังกล่าวได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 1 ไว้กับ บริษัทประกันภัยเดียวกัน สิ้นสุดวันที่ 25 พ.ค.เช่นเดียวกัน โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. 1,000,000 บาทต่อคน รวมแล้วไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง) ความเสียหายต่อทรัพย์สิน 1,000,000 บาทต่อครั้ง
ในส่วนของรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน ลษ 1586 กรุงเทพมหานคร ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย.63 ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ขณะที่รถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน 1 ษ 1146 กรุงเทพมหานคร ทำประกันภัยพ.ร.บ. ไว้กับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย สิ้นสุดวันที่ 15 มี.ค.63 และยังได้ทำประกันภัยประเภท 3 ไว้กับ บริษัทเดียวกันวันเดียวกัน ส่วนรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 954 กรุงเทพมหานคร ได้ทำประกันภัยพ.ร.บ. ไว้กับ บมจ.กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ.63
สำหรับ การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 8 ราย นั้น จากการติดตามอย่างใกล้ชิดทราบว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ติดต่อกับโรงพยาบาลเพื่อนำศพของผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว ซึ่งสำนักงาน คปภ. จังหวัดนนทบุรี ได้อำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยได้รับรายงานจากบริษัทประกันภัยว่าได้มีการติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิตแล้ว และจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยโดยด่วนต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในส่วนของผู้บาดเจ็บ 8 ราย ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และโรงพยาบาลนนทเวช ยังคงพักรักษาตัว 5 ราย อีก 3 รายกลับบ้านแล้ว โดย สำนักงาน คปภ. จังหวัดนนทบุรี ได้แจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยตาม พ.ร.บ. ให้กับผู้บาดเจ็บและโรงพยาบาลได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้ติดตามให้มีการจ่ายตามสิทธิดังกล่าวต่อไป
“อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ. ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. ระบุ.