“สุริยะ” เทเงินช่วยชาวไร่อ้อยคุณภาพดี 120 บาทต่อตัน
ชาวไร่อ้อย เฮ! รัฐบาลจ่ายเงินรอบแรก ช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดี 1.22 แสนราย ผ่านบัญชี ธ.ก.ส. ไม่เกิน 7 ต.ค.นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2565 เห็นชอบโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2564/65 ในอัตรา 120 บาทต่อตัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ภายใต้กรอบวงเงิน 8,319.24 ล้านบาท โดยจะเริ่มจ่ายเงินรอบแรกช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีไม่เกินวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ผ่านบัญชี ธ.ก.ส. ของชาวไร่อ้อยแต่ละรายโดยตรง จำนวน 122,651 ราย มีปริมาณอ้อยสดส่งโรงงาน 64.36 ล้านตัน เป็นจำนวนเงิน 7,723.73 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือครบทุกรายภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 ทั้งนี้ คณะกรรมการ ธ.ก.ส. ได้ให้ความเห็นชอบโครงการฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2565
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากนโยบายในการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดลดฝุ่น PM 2.5 ทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยหันมาตัดอ้อยสดก่อนส่งโรงงานเพิ่มมากขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมที่จะผลักดันอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เติบโตไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และได้วางแผนกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง จัดหาเครื่องสางใบอ้อยมาให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยยืมใช้สางใบอ้อย ส่งเสริมการรับซื้อใบอ้อยเพื่อเพิ่มรายได้และลดการเผาอ้อย การลงนามในบันทึกความร่วมมือการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ในพื้นที่ปลูกอ้อย 47 จังหวัดทั่วประเทศ สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2565 – 2567 รวมถึงขอรับการสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสด
นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวเพิ่มเติมว่าเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือสามารถตรวจสอบสถานะการโอนเงินไปยังบัญชีของท่านผ่านไลน์ “ตรวจสิทธิ์อ้อย” หากไม่มีปัญหาระบบจะแจ้งว่า “บัญชีพร้อมโอน” และหากได้รับการโอนแล้วระบบจะแจ้งว่า “โอนเงินสำเร็จแล้ว” กรณีระบบแจ้งว่าบัญชีของท่าน “ไม่สามารถรับโอนได้” ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าไม่สามารถโอนได้เนื่องจากกรณีใด ให้ผู้ตรวจสิทธิ์ฯ รีบแจ้งดำเนินการแก้ไขผ่านโรงงานคู่สัญญาของท่าน และให้โรงงานทำหนังสือรับรองมายังสำนักบริหารอ้อยและน้ำตาลทราย (สบน.) เพื่อรับรองและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) พิจารณาตรวจสอบร่วมกับ ธ.ก.ส. เพื่อเร่งดำเนินการเบิกจ่ายต่อไป