มอบเกียรติคุณ 20 จ.วินัยการออมดีเด่น
กองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมหาดไทย มอบใบประกาศเกียรติคุณ “20 จังหวัด” ที่ส่งเสริมวินัยการออมดีเด่น ผ่านผู้ว่าฯ ที่สร้างยอดสมาชิกตามเป้าหมาย หนุนการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมวินัยการออมระดับพื้นที่
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า ความร่วมมือที่ กอช.ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อน “โครงการส่งเสริมวินัยการออมกับ กอช. ในระดับพื้นที่” โดยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าร่วมประชุมในฐานะเป็น “หัวใจสำคัญ” ขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าว และร่วมลงพื้นที่ในการเพิ่มสมาชิกกลุ่มเป้าหมายระดับภูมิภาค ซึ่ง เม.ย.ที่ผ่านมา มี 20 จังหวัด ที่มีผลการดำเนินงานการส่งเสริมวินัยการออมดีเด่น ในการใช้กลไกความร่วมมือขับเคลื่อนการดำเนินงานจนเกิดผลต่อการออมอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
“แรงงานนอกระบบ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ต้องเข้าถึงการออมที่จะเป็นแหล่งรายได้ยามชราที่มั่นคง โดย กอช.ต้องบูรณาการร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้ สมัครเป็นสมาชิก กอช. รับเงินสมทบจากรัฐบาล เพื่อมีเงินออมไว้ใช้หลังอายุ 60 ปี เป็นรายเดือนเพิ่มมากขึ้น” ประธาน บอร์ด กอช.ย้ำ
ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า นับเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการส่งเสริมวินัยการออมทั่วทุกพื้นที่โดยพร้อมเพรียงกันทั้งประเทศ ตามนโยบายและแนวทางที่ มท.และ กอช. ได้วางทิศทางและกรอบการดำเนินงาน ตามเป้าหมายการส่งเสริมวินัยการออม เพื่อสร้างความมั่นคงของผู้สูงวัย ให้มีรายได้ที่พอเพียงเมื่อถึงวัยเกษียณ ซึ่งไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 ซึ่งโครงการความร่วมมือครั้งนี้ ได้เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยให้ความสำคัญกับบุคลากรของ มท.ที่ไม่ได้รับสวัสดิการเรื่องบำนาญ อันจะมีเงินเพียงพอสำหรับใช้ดำรงชีพในยามเกษียณ เพื่อให้ได้รับสิทธิสวัสดิการจากรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแกนหลักสำคัญขับเคลื่อน พร้อมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมผลักดันการส่งเสริมวินัยการออมกับ กอช. ให้เกิดผลสำเร็จขึ้นในแต่ละพื้นที่ร่วมส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับสวัสดิการด้านบำนาญจากรัฐบาลได้เข้าสู่ระบบการออมที่รัฐบาลให้การสนับสนุน
“ช่วง เม.ย.ที่ผ่านมา มีจังหวัดที่มีสมาชิก กอช. เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายมากกว่าร้อยละ 10, ร้อยละ 25 และร้อยละ 50 ตามลำดับ ถึง 20 จังหวัดแล้ว หลังจากนี้ มท.จะเร่งขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมวินัยการออมกับ กอช. ในระดับพื้นที่ ให้ครบ 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าถึงการออมกับ กอช. เพิ่มมากขึ้นต่อไป และกระทรวงมหาดไทยมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้ประชาชนได้เข้าถึงสวัสดิการจากรัฐบาลในการออมเงินกับ กอช. ไว้ใช้หลังอายุ 60 ปี” รองปลัด มท.ย้ำ
ขณะที่ น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนิ้ ได้ผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างโอกาส ความเสมอภาค และเท่าเทียมกันทางสังคม อันเป็นประเด็นหลักสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพด้านการจัดสวัสดิการพื้นฐานของรัฐบาลที่จะนำไปสู่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นความสำคัญในการมุ่งส่งเสริมวินัยการออมให้ประชาชนได้มีเงินเก็บออมไว้ใช้หลังอายุ 60 ปี โดยมีจังหวัดที่มียอดสมาชิก กอช. เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย 3 ประเภท ดังนี้
ประเภทที่ 1 มากกว่าร้อย 10 มี 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยโสธร จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดนครพนม จังหวัดพัทลุง จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดยะลา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดปัตตานี จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดอุดรธานี, ประเภทที่ 2 มากกว่าร้อยละ 25 มี 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดสงขลา และประเภทที่ 3 มากกว่า 50 มี 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดนราธิวาส
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิก กอช. ได้ตั้งแต่อายุ 15 – 60 ปี ที่ไม่มีสวัสดิการจากรัฐบาล ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33, มาตรา 39, มาตรา 40 ทางเลือก 2, มาตรา 40 ทางเลือก 3 ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และไม่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่มีมากกว่า 21 ล้านคนทั่วประเทศ จะได้เติมเต็มเงินออมหลังเกษียณเป็นรายเดือน เพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงทางการเงิน โดย กอช. ยังมีช่องทางอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกและผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน “กอช” เพื่อสมัครสมาชิก ดูข้อมูลบัญชีเงินออม และใช้ตรวจสอบสิทธิการสมัครสมาชิกได้ ทั้งระบบ iOS และ Android หรือที่ www.nsf.or.th หรือที่หน่วยรับสมัครของ กอช. ธนาคารของรัฐทั้ง 4 แห่ง อาทิ ธนาคาร ธ.ก.ส. ธอส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ ตู้บุญเติมเทสโก้โลตัส รวมทั้งสำนักงานคลังจังหวัด สถาบันการเงินชุมชน และเครือข่ายรับสมัครทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล สายด่วนเงินออม 02-049-9000.