สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 22 ก.ย. 65
ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งภาคตะวันออก
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ กรุงเทพมหานคร (127 มม.) จ.กาฬสินธุ์ (76) และ จ.จันทบุรี (71 มม.)
เฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำชี-มูล ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 65 ดังนี้
1. ลุ่มน้ำชี บริเวณ จ.กาฬสินธุ์ บริเวณ อ.กมลาไสย กุฉินารายณ์ ฆ้องชัย เมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด และร่องคำ จ.ขอนแก่น บริเวณ อ.โคกโพธิ์ไชย ชนบท บ้านแฮด พระยืน มัญจาคีรี แวงน้อย และแวงใหญ่ จ.ชัยภูมิ บริเวณ อ.คอนสวรรค์ เนินสง่า และเมืองชัยภูมิ จ.นครราชสีมา บริเวณ อ.แก้งสนามนาง และบ้านเหลื่อม จ.มหาสารคาม บริเวณ อ.โกสุมพิสัย กันทรวิชัย เมืองมหาสารคาม และ จ.ยโสธร บริเวณ อ.ค้อวัง คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และเมืองยโสธร จ.ร้อยเอ็ด บริเวณ อ.จังหาร เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง ธวัชบุรี พนมไพร โพธิ์ชัย โพนทอง เมยวดี เมืองสรวง เสลภูมิ สุวรรณภูมิ และอาจสามารถ
2. ลุ่มน้ำมูล บริเวณ จ.นครราชสีมา บริเวณ อ.ชุมพวง ลำทะเมนชัย และเมืองยาง จ.บุรีรัมย์ บริเวณ อ.แคนดง และสตึก จ.สุรินทร์ บริเวณ อ.ชุมพลบุรี ท่าตูม และรัตนบุรี จ.ศรีสะเกษ บริเวณ อ.บึงบูรพ์ ห้วยทับทัน ราษีไศล เมืองศรีสะเกษ และกันทรารมย์ จ.อุบลราชธานี บริเวณ อ. เขื่องใน เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ และสว่างวีระวงศ์
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 56,689 ลบ.ม. (69%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 49,378 ล้าน ลบ.ม. (69%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 14 แห่ง ได้แก่ แม่งัด แม่มอก ทับเสลา กระเสียว อุบลรัตน์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง มูลบน ขุนด่าน คลองสียัด บางพระ หนองปลาไหล นฤบดินทร และบึงบระเพ็ด
วานนี้ (21 ก.ย. 65) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานด้านอำนวยการ กอนช. ครั้งที่ 3/2565 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณากำหนดเกณฑ์บริหารจัดการน้ำ โดยเบื้องต้นกำหนดให้มีปริมาณน้ำ ณ สถานี อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปรับลดลงจากเกณฑ์เดิมซึ่งอยู่ในอัตรา 3,500 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ กอนช. ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาสนับสนุนการปล่อยปลาเพื่อใช้สำหรับเป็นอาหารและสร้างรายได้เสริมให้แก่ประชาชนในช่วงระหว่างการรับน้ำเข้าทุ่ง และจะมีการเร่งระบายน้ำออกจากทุ่งเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว โดยจะยังคงเหลือปริมาณน้ำไว้จำหนวนหนึ่ง ตามนโยบายของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. เพื่อใช้สำหรับเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง โดยต้องเป็นพืชที่เหมาะสมกับปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่
กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ใช้การคาดการณ์จากแนวโน้มปริมาณฝนสูงสุด หรือกรณีการมีพายุจรเกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการประเมินปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาและแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ
กรมชลประทานให้ปรับเกณฑ์เพิ่มการระบายน้ำและต้องเฝ้าระวังหากมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 22 ก.ย. 2565 ดังนี้
1. ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ประกาศ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฉบับที่ 3/2565 ลงวันที่ 21 ก.ย. 2565 ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แจ้งเฝ้าระวังระดับน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงวันที่ 22 – 26 กันยายน 2565 ระดับน้ำในลุ่มน้ำชี-มูล มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.40 -0.60 เมตร ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 25-5 โดยบริเวณสถานีตรวจวัดน้ำ M.7 อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบสราชธานี วานนี้ (21 ก.ย. 2565 เวลา 1.00 น.) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,819 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำ +112.86 เมตร ระดับทะเสปานกลาง สูงกว่าระดับตลิ่ง 1.86 เมตร ปัจจุบันพบว่าระดับน้ำได้ล้นตลิ่งต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำบริเวณแนวฟันหลอและไหลหลากเข้าท่วมบริเวณชุมชนท่ากอไผ่ อำเกอวารินชำราบ จังหวัดอุบสราชธานี และจากการคาดการณ์ระดับน้ำในช่วงวันที่ 22 – 26 ก.ย. 2565 ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ในวันที่ 26 ก.ย. 2565 ระดับน้ำบริเวณสถานี M.7 มีระดับน้ำ +113.03 เมตร ระดับทะเลปานกลาง ซึ่งจะส่งผลให้ในวันที่ 21 ก.ย. 2565 ระดับน้ำล้นตลิ่งและไหลหลากเข้าท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยอาจส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณชุมชนท่ากอไผ่ อำเกอวารินชำราบ
2. ผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับฤดูฝน ปี 2565
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) หารือกำหนดเกณฑ์บริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบแก่ประชาชน คาดช่วงปลายเดือน ก.ย. – ต.ค. 2565 มีแนวโน้มของปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีแนวโน้มของร่องมรสุมพาดผ่านพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ส่งผลให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) รายงานว่ามีแนวโน้มของพายุ จำนวน 1-2 ลูก ที่จะเข้ามาทางประเทศไทย ทั้งนี้ กอนช. ได้ประเมินสถานการณ์ของประเทศไทยว่าอยู่ในช่วงลานีญา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 20% ของค่าปกติ จึงได้มีการดำเนินงานเชิงรุกล่วงหน้า เช่น การเตรียมพร่องน้ำในเขื่อนต่าง ๆ สำหรับเขื่อนขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กบางแห่ง ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก ทาง กอนช. ได้แจ้งเตือนกรมชลประทานให้ปรับเกณฑ์เพิ่มการระบายน้ำและต้องเฝ้าระวังหากมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดย กอนช. จะมีการประเมินพื้นที่เสี่ยงและแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์
3. สถานการณ์น้ำท่วม
ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกําลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น
โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ในระหว่างวันที่ 4 – 21 ก.ย. 65 ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ชุมชนเมืองและพื้นที่เกษตรกรรม รวม 24 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดตาก ภาคกลาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดหนองบัวลำภู ชัยภูมิ อุบลราชธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ภาคตะวันออกจังหวัด ชลบุรี สระแก้ว