“เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ” เปิดตัว’บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์’ จากญี่ปุ่น
เพอร์เฟค-เซกิซุย เปิดตัว “บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์” ล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมการอยู่อาศัยและเทคโนโลยีการก่อสร้างระบบโมดูล่าร์ ภายใต้มาตรฐานญี่ปุ่นในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 5 ทำเล มูลค่ากว่า 3,100 ล้าน พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการแนวราบหนุนยอดขาย-รายได้
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีความร่วมมือกับ บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด ผู้นำในธุรกิจรับสร้างบ้านของประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันพัฒนาบ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบโมดูล่าร์ ล่าสุดได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด 1 “บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มบ้านระดับบน ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและนวัตกรรมในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 5 โครงการ มูลค่า 3,150 ล้านบาท ได้แก่ โครงการที่เปิดในปีนี้ บนทำเลกรุงเทพกรีฑา จำนวน 35 หลัง , รามคำแหง 15 หลัง , แจ้งวัฒนะ จำนวน 8 หลัง และ รัตนาธิเบศร์ จำนวน 16 หลัง รวมจำนวน 74 ยูนิต มูลค่ารวม 2,230 ล้านบาท และจะเปิดตัวเพิ่มขึ้นในต้นปี 2563 อีก 1 โครงการ ในทำเลสุขุมวิท77 จำนวน 28 ยูนิต มูลค่า 920 ล้านบาท
โดยบ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์ ราคาเริ่มต้น 20-45 ล้านบาท มีให้เลือก 4 แบบ ขนาดตั้งแต่ 255-475 ตร.ม. เป็นรูปแบบเฉพาะโดยการออกแบบร่วมกันระหว่างทีมออกแบบของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ เซกิซุย ที่นำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากญี่ปุ่นมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ อาทิเช่น Air Factory System ระบบหมุนเวียนอากาศและไส้กรอง 3 ชั้น สามารถดักจับฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่า PM2.5 ได้ถึง97% เติมอากาศบริสุทธิ์ให้หมุนเวียนในบ้านได้อย่างต่อเนื่อง ลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ จึงเรียกได้ว่าเป็น “บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์” พร้อม Heat Exchanger ปรับอุณหภูมิให้บ้านเย็นสบายอยู่เสมอ ช่วยลดการใช้ไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน Air Tightness System บ้านไร้รอยต่อ ป้องกันฝุ่น เสียง กลิ่น แมลง รวมถึงความร้อนจากภายนอกไม่ให้เข้ามาภายในบ้าน Thermal Insulated System ระบบฉนวนกันความร้อน 3 ชั้น เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อน และ Sound Insulated System ระบบผนังป้องกันเสียง ทำให้ได้ยินเสียงเบากว่าบ้านทั่วไป 10 เดซิเบล
นายวงศกรณ์ กล่าวว่าในปีนี้ ยังคงยอดขายและรายได้ไว้ที่ 19,000 ล้านบาท โดยในช่วง 4 เดือนกว่าสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 5,000 ล้านบาท และช่วงปลายไตรมาส 2 บริษัทจะรุกหนักเปิดโครงการแนวราบ 16 โครงการ และคอนโดมิเนียมเพียง 1 โครงการ
นอกจากนี้ จะมีการปรับลดบ้านพร้อมโอนมาเพิ่มบ้านสร้างไปขายไปให้มีสัดส่วนอย่างละ 50% เพื่อบริหารยอดขายหลังจากที่มาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาฯ (LTV) บังคับใช้แล้ว รวมถึงการขยายโครงการ จะเน้นทำเลที่มีคุ้นเคยและชำนาญเป็นหลัก แต่หากทำเลใหม่ จะเปิดโครงการขนาดไม่ใหญ่ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขาย.