สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 ก.ย. 65
ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จ.ตราด (155 มม.) จ.จันทบุรี (138 มม.) และจ.น่าน (127 มม.)
เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง ดังนี้
ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะยา แพร่ น่าน ลำพูนลำปาง กำแพงเพชร ตาก สุโขทัย พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา ชัยภูมิ อำนาจเจริญ บึงกาฬ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ และยโสธร ภาคกลาง จ.กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก จ.ระยอง จันทบุรี และตราด และภาคใต้ จ.ระนอง
เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ของ แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำระยอง แม่น้ำจันทบุรี และแม่น้ำตราด
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 55,612 ลบ.ม. (68%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 48,671 ล้าน ลบ.ม. (68%) เฝ้าระวังแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve)13 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล แม่มอก บึงบอระเพ็ด ทับเสลา กระเสียว อุบลรัตน์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง มูลบน ขุนด่านปราการชล คลองสียัด บางพระ และหนองปลาไหล
ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกาศฉบับที่ 2/2565 เฝ้าระวังระดับน้ำในลุ่มน้ำชี-มูล
จากการติดตามสถานการณ์น้ำ และคาดการณ์ฝนตกหนัก อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำอาจเกิดน้ำท่วมขังและล้นตลิ่ง จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 2565 ดังนี้
1. ลุ่มน้ำชี
1.1 จ.กาฬสินธุ์ บริเวณ อ.กมลาไสย กุฉินารายณ์ ฆ้องชัย เมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด และร่องคำ
1.2 จ.ขอนแก่น บริเวณ อ.โคกโพธิ์ไชย ชนบท บ้านแฮด พระยืน มัญจาคีรี แวงน้อย และแวงใหญ่
1.3 จ.ชัยภูมิ บริเวณ อ.คอนสวรรค์ เนินสง่า และเมืองชัยภูมิ
1.4 จ.นครราชสีมา บริเวณ อ.แก้งสนามนาง และบ้านเหลื่อม
1.5 จ.มหาสารคาม บริเวณ อ.กันทรวิชัย โกสุมพิสัย และเมืองมหาสารคาม
1.6 จ.ยโสธร บริเวณ อ.ค้อวัง คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และเมืองยโสธร
1.7 จ.ร้อยเอ็ด บริเวณ อ.จังหาร เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง ธวัชบุรี พนมไพร โพธิ์ชัย โพนทอง เมยวดี เมืองสรวง สุวรรณภูมิ เสลภูมิ และอาจสามารถ
1.8 จ.ศรีสะเกษ บริเวณ อ.กันทรารมย์
1.9 จ.อุบลราชธานี บริเวณ อ.เขื่องใน และเมืองอุบลราชธานี
2. ลุ่มน้ำมูล
2.1 จ.นครราชสีมา บริเวณ อ.ชุมพวง ลำทะเมนชัย และเมืองยาง
2.2 จ.บุรีรัมย์ บริเวณ อ.แคนดง และสตึก
2.3 จ.สุรินทร์ บริเวณ อ.ชุมพลบุรี ท่าตูม และรัตนบุรี
2.4 จ.ศรีสะเกษ บริเวณ อ.บึงบูรพ์ ห้วยทับทัน ราษีไศล เมืองศรีสะเกษ และกันทรารมย์
2.5 จ.อุบลราชธานี บริเวณ อ.เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ เขื่องใน และสว่างวีระวงศ์
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 19 ก.ย. 2565 ดังนี้
1. ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 39/2565 ลงวันที่ 14 ก.ย. 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขัง ในช่วงวันที่ 17 – 21 ก.ย. 2565 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำระยอง แม่น้ำจันทบุรี และแม่น้ำตราด และเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) 13 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วคอหมา กิ่วลม แม่มอก ทับเสลา กระเสียว อุบลรัตน์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง มูลบน คลองสียัด บางพระ และหนองปลาไหล รวมทั้งอ่างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำทั่วประเทศ
2. ผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับฤดูฝน ปี 2565
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยทหารในการบรรเทาสาธารณภัย และช่วยเหลือประชาชน ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เทศบาลตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โดยได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุป การช่วยเหลือผู้ประสบภัยของกองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือ ภาคที่ 1 ร่วมกับ กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และฐานทัพเรือสัตหีบ รวมทั้งหน่วยงานทหารในพื้นที่ สำหรับภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะเทศบาลตำบลทับมา ซึ่งได้รับความเดือดร้อนกว่า 7,300 ครัวเรือน ซึ่งครอบคลุมทุกครัวเรือนในพื้นที่เทศบาลตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับ กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และฐานทัพเรือสัตหีบ จึงได้จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้การสนับสนุน ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเทศบาลตำบลทับมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้ให้การสนับสนุนการให้บริการประชาชนผู้ประสบภัย การเคลื่อนย้ายสิ่งของและช่วยเหลือผู้ประสบภัย การประกอบอาหารและการลำเลียงแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มการดูแลประชาชน ณ ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย
3. สถานการณ์น้ำท่วม
ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกําลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ในระหว่างวันที่ 4 – 18 ก.ย. 65 ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ชุมชนเมือง และพื้นที่เกษตรกรรม รวม 27 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ตาก ลพบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท สุพรรณบุรี นครปฐม กรุงเทพฯ หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สุรินทร์ มหาสารคาม ยโสธร อุบลราชานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ฉะเชิงเทรา ระยอง และ จันทบุรี