Skip to content
Thu. Sep 4th, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • HOT NEWS
  • NATIONAL

นโยบายควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย

16/09/2022 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,206

ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก ออกนโยบายระงับและจำกัดการส่งออกข้าว เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2022 ที่ผ่านมา อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก มีส่วนแบ่งตลาด 40.7% ประกาศระงับการส่งออกปลายข้าวและจำกัดการส่งออกข้าวเปลือก ข้าวขาวและข้าวกล้องทุกชนิด ด้วยการเก็บภาษีส่งออก 20% อย่างไม่มีกำหนด เพื่อให้ผลผลิตข้าวมีเพียงพอต่อความต้องการบริโภคในประเทศ

EIC วิเคราะห์ผลกระทบจากความเป็นไปได้ด้านนโยบายข้าวของอินเดียเป็น 2 กรณี 

เนื่องจากนโยบายการส่งออกข้าวของอินเดียยังมีความไม่แน่นอนสูง EIC จึงทำการวิเคราะห์ผลกระทบจากพัฒนาการของนโยบายที่อาจเกิดขึ้นได้ใน 2 กรณี คือ (1) อินเดียดำเนินนโยบายตามที่ได้ประกาศออกมาในปัจจุบันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไปจนถึงช่วงเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ของอินเดียจะออกสู่ตลาด และ (2) อินเดียมีการออกนโยบายระงับการส่งออกข้าวเพิ่มเติม ให้ครอบคลุมถึงข้าวเปลือก ข้าวนึ่ง ข้าวขาว และข้าวกล้องด้วย  และมีการดำเนินนโยบายดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือนตุลาคม 2023 เหมือนกับกรณีแรก โดยผลการศึกษาพบว่า นโยบายของอินเดียจะส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวโลกใน 2 ลักษณะ กล่าวคือ นโยบายระงับการส่งออกข้าวจะส่งผลให้ปริมาณข้าวของอินเดียหายไปจากตลาดโลก ขณะที่นโยบายจำกัดการส่งออกข้าวด้วยการเก็บภาษีจะส่งผลให้ราคาข้าวของอินเดียในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นและเสียเปรียบด้านการแข่งขันด้านราคา

นโยบายส่งออกข้าวของอินเดียจะส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวโลกอย่างมีนัยสำคัญ EIC พบว่า นโยบายของอินเดีย ในกรณีที่ 1 และ 2 จะกระทบต่อปริมาณการค้าข้าวโลกคิดเป็นสัดส่วน 18.3% และ 33.5% ของปริมาณการค้าข้าวโลก ตามลำดับ  โดย EIC คาดว่า ในกรณีที่ 1 ราคาข้าวโลกในปี 2023 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.8%YOY ขณะที่ในกรณีที่ 2 ราคาข้าวโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 66.3%YOY โดย เซเนกัล จีน บังกลาเทศ เบนินและเนปาล จะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบเชิงลบมากที่สุดจากนโยบายระงับและจำกัดการส่งออกข้าว เนื่องจากพึ่งพาการนำเข้าข้าวจากอินเดียในระดับสูง ในขณะที่ประเทศผู้ส่งออกข้าว อย่าง ไทย เวียดนามและปากีสถาน จะได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการที่ราคาข้าวโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นและความต้องการนำเข้าเพื่อทดแทนข้าวอินเดียที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าไทยจะได้รับประโยชน์สูงที่สุด จากการเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของโลก

ผู้มีส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมข้าวไทยจะได้รับผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบนโยบายส่งออกข้าวของอินเดียจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมข้าวไทย ผ่านช่องทางราคาและปริมาณการส่งออก โดย กรณีที่ 1 ราคาข้าวเปลือกเจ้าของไทยในปี 2023 จะปรับตัวเพิ่มขั้น 11.1%YOY กรณีที่ 2 ราคาข้าวเปลือกเจ้าของไทยอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 46.5%YOY ในขณะเดียวกัน ราคาขายปลีกข้าวขาวของไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.7%YOY และ 36.4%YOY ในกรณีที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ในส่วนของผลกระทบต่อปริมาณการส่งออกข้าวของไทย พบว่า  ปริมาณการส่งออกข้าวจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.4%YOY และ 73.0%YOY ในกรณีที่ 1 และ 2 ตามลำดับ โดยราคาข้าวเปลือกและปริมาณการส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จะส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โรงสีและผู้ส่งออกข้าว ในขณะที่ราคาขายปลีกข้าวในประเทศที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เนื่องจากจะมีค่าใช้จ่ายในการซื้อข้าวที่เพิ่มขึ้น 

นโยบายของอินเดียเป็นหน้าต่างแห่งโอกาสให้ไทยดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวโลกกลับมา ความต้องการข้าวไทยในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นมากจากนโยบายควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย ส่งผลให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในห่วงโซ่การผลิตอุตสาหกรรมข้าวไทย ควรจะร่วมมือกันใช้โอกาสนี้ในการดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวโลกกลับคืนมา ซึ่งการที่จะสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวโลกกลับมาได้อย่างยั่งยืนนั้น ผู้เล่นในอุตสาหกรรมข้าวไทย จะต้องเร่งปรับตัวเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนสูงของปัจจัยเสี่ยงทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

อินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกออกนโยบายระงับและจำกัดการส่งออกข้าว

อินเดียระงับส่งออกปลายข้าวและจำกัดการส่งออกข้าวขาว ข้าวเปลือกและข้าวกล้องด้วยการเก็บภาษีส่งออก 20% เพื่อให้ผลผลิตข้าวเหลือเพียงพอต่อความต้องการบริโภคในประเทศ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2022  ที่ผ่านมา อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก ส่วนแบ่งตลาด 40.7% ประกาศระงับการส่งออกปลายข้าวและจำกัดการส่งออก ข้าวขาว ข้าวเปลือกและข้าวกล้องด้วยการเก็บภาษีการส่งออก 20% อย่างไม่มีกำหนด โดยการดำเนินนโยบายดังกล่าว มีสาเหตุมาจาก การที่ผลผลิตข้าวของอินเดียในฤดูกาลหน้ามีแนวโน้มปรับตัวลดลง สอดคล้องกับการคาดการณ์ขององค์การอาหารแห่งสหประชาชาติที่ระบุว่า ผลผลิตข้าวของอินเดียในฤดูกาลหน้า
(เริ่มเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนตุลาคม 2022) จะปรับตัวลดลงราว 5.6 ล้านตัน จากปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูมรสุมที่น้อยกว่าปกติ โดยผลผลิตข้าวที่ลดลงดังกล่าว จะส่งผลให้ความต้องการบริโภคข้าวในประเทศในฤดูกาลหน้าอยู่ในระดับที่สูงกว่าผลผลิตที่เหลือในประเทศ หากอินเดียยังคงปล่อยให้มีการส่งออกข้าวในปริมาณเดียวกันกับฤดูกาลที่ผ่านมา กล่าวคือ หากในฤดูการผลิต 2022/2023 (ต.ค. 22 – ก.ย. 23) อินเดียยังคงส่งออกข้าวที่ระดับ 20.8 ล้านตันเหมือนในฤดูการผลิต 2021/2022 ความต้องการบริโภคข้าวในประเทศจะมากกว่าผลผลิตข้าวที่เหลืออยู่ในประเทศราว 3.1 ล้านตัน (รูปที่ 1) ดังนั้น รัฐบาลอินเดียจึงมีแรงจูงใจที่จะดำเนินนโยบายระงับและจำกัดการส่งออกข้าว เพื่อให้ผลผลิตข้าวเหลือเพียงพอต่อความต้องการบริโภคในประเทศ

ผลกระทบต่อตลาดข้าวโลก

การดำเนินนโยบายดังกล่าวของอินเดียจะส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวโลกใน 2 ลักษณะ กล่าวคือ นโยบายระงับการส่งออก จะส่งผลให้ผลผลิตข้าวหายไปจากตลาดโลก โดยปริมาณข้าวในตลาดโลกที่ลดลง จะผลักดันให้ราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นและส่งผลให้ประเทศผู้นำเข้าข้าวจำเป็นต้องหาแหล่งนำเข้าข้าวใหม่ เพื่อทดแทนข้าวจากอินเดียที่หายไป ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ทั้งความต้องการและราคาข้าวของประเทศผู้ส่งออกข้าวอื่น ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่นโยบายจำกัดการส่งออกด้วยการเก็บภาษีส่งออก 20% จะส่งผลให้ราคาข้าวของอินเดียในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทันที 20% โดยเมื่อราคาข้าวของอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาข้าวของประเทศผู้ส่งออกอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย จากความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อทดแทนข้าวอินเดียที่เพิ่มขึ้น

นโยบายของอินเดีย จะส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวโลกมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับว่าพัฒนาการของนโยบายดังกล่าวว่าจะมีแนวโน้มเปลี่ยนไปในลักษณะใด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการค้าของอินเดียยังมีความไม่แน่นอนสูง  EIC จึงได้ทำการประเมินผลกระทบจากพัฒนาการของนโยบายที่อาจเป็นไปได้ใน 2 กรณี ดังนี้
(1) อินเดียดำเนินนโยบายตามที่ได้ประกาศออกมาในปัจจุบันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไปจนถึงช่วงเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ของอินเดียจะออกสู่ตลาด และ (2) อินเดียมีการออกนโยบายระงับการส่งออกข้าวเพิ่มเติม ในเดือนธันวาคม 2022 ให้ครอบคลุมข้าวขาว ข้าวนึ่ง ข้าวเปลือกและข้าวกล้องด้วย  และมีการดำเนินนโยบายดังกล่าวไปจนถึงช่วงเดือนตุลาคม 2023 เหมือนกับกรณีแรก ทั้งนี้ อินเดียเคยมีนโยบายระงับการส่งออกข้าวขาว ข้าวนึ่ง ข้าวเปลือก ข้าวกล้องและปลายข้าว (ยกเว้นข้าวบาสมาติ) มาแล้วในปี 2007

นโยบายของอินเดีย ทั้งสองกรณี จะกระทบต่อปริมาณการค้าข้าวโลกในสัดส่วนที่สูง ทั้งนี้ หากพิจาณาจากข้อมูลปริมาณการส่งออกข้าวของอินเดียในอดีตหรือในปี 2021  จะพบว่า ในกรณีที่อินเดียดำเนินนโยบายตามที่ประกาศในปัจจุบัน ไปจนถึง เดือนตุลาคม 2023 จะมีปริมาณข้าวที่ได้รับผลกระทบอยู่ที่ 9.6 ล้านตันหรือคิดเป็นสัดส่วน 18.3% ของปริมาณการค้าข้าวโลก โดยข้าวที่จะได้รับผลกระทบจากการระงับการส่งออกจะอยู่ที่ 3.6 ล้านตัน ในขณะที่ข้าวที่จะได้รับผลกระทบจากการจำกัดการส่งออกด้วยภาษี จะอยู่ที่ 5.9 ล้านตัน ส่วนในกรณีที่ 2 ที่หากอินเดียมีการระงับการส่งออกข้าวขาว ข้าวนึ่ง ข้าวเปลือกและข้าวกล้องเพิ่มเติม พบว่า จะมีปริมาณข้าวที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวมากถึง 17.4 ล้านตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 33.5% ของปริมาณการค้าข้าวทั้งหมดในตลาดโลก

EIC คาดว่า ราคาข้าวโลกในปี 2023 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.8%YOY และ 66.3%YOY ในกรณีที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ราคาข้าวโลกในปี 2023 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่ม จากความต้องการบริโภคข้าวโลกที่คาดว่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าปริมาณผลผลิต รวมทั้งสต็อกข้าวโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง (รูปที่ 3) โดยนโยบายระงับและจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดีย จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาข้าวโลกยิ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจากการประเมินผลกระทบของนโยบายดังกล่าว EIC พบว่า ในกรณีที่ 1 ราคาข้าวโลกในปี 2023 จะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.8%YOY ขณะที่ในกรณีที่ 2 ราคาข้าวโลกอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 66.3% ทั้งนี้ จากข้อมูลในอดีต (รูป 3) จะพบว่า ในช่วงปี 2007 – 2011 ที่อินเดียมีการระงับการส่งออกข้าวทุกชนิด ยกเว้นข้าวบาสมาติ ราคาข้าวโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากและทรงตัวอยู่ในระดับสูงกว่าราคาเฉลี่ยในปี 2007 ซึ่งเป็นปีที่แรกที่อินเดียเริ่มระงับการส่งออกข้าว (เริ่มเดือน ต.ค.) อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ในปี 2008 ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้น 99.4% เมื่อเทียบกับปี 2007

ทั้งนี้ เซเนกัล จีน บังกลาเทศ เบนิน และเนปาล เป็นประเทศที่จะได้รับผลกระทบเชิงลบมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายส่งออกข้าวของอินเดีย เนื่องจากมีปริมาณและสัดส่วนพึ่งพาการนำเข้าข้าวจากอินเดียในระดับสูง เซเนกัล และจีน จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากนโยบายระงับการส่งออกปลายข้าว เนื่องจากประเทศดังกล่าวมีปริมาณและสัดส่วนพึ่งพาการนำเข้าปลายข้าวจากอินเดียในระดับสูง ตัวอย่างเช่น  ในปี 2021 เซเนกัล นำเข้าปลายข้าวจากอินเดียสูงถึง 0.9 ล้านตัน ซึ่งเป็นการนำเข้าปลายข้าวจากอินเดียสูงถึง 84.9%  (รูปที่ 4)  สำหรับนโยบายจำกัด (กรณีที่ 1) หรือระงับ (กรณีที่ 2) การส่งออกข้าวเปลือก ขาวนึ่ง ข้าวข้าวและ ข้าวกล้อง พบว่า บังกลาเทศ เบนิน และเนปาล จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากมีปริมาณและสัดส่วนการพึ่งพาการนำเข้าข้าวกลุ่มดังกล่าวจากอินเดียในระดับสูง ตัวอย่างเช่น ในปี 2021 บังกลาเทศนำเข้าข้าวกลุ่มดังกล่าว จากอินเดียสูงถึง 2.4 ล้านตัน และมีสัดส่วนการพึ่งพาการนำเข้าปลายข้าวจากอินเดียสูงถึง 95.0%

ในทางกลับกัน ไทย เวียดนาม และปากีสถาน เป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงบวก จากการดำเนินนโยบายดังกล่าวของอินเดีย โดยคาดว่าไทยจะได้รับประโยชน์สูงสุด EIC ประเมินว่าประเทศผู้ส่งออกข้าวรายหลักอื่น ๆ ในตลาดโลก จะได้ประโยชน์จากนโยบายระงับและจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดีย เนื่องจากข้าว เป็นสินค้าโภคภัณฑ์พื้นฐานทางการเกษตร ที่มีความซับซ้อนน้อยสามารถทดแทนกันได้ง่าย ส่งผลให้ประเทศคู่ค้าของอินเดียสามารถหันไปนำเข้าข้าวจากประเทศผู้ผลิตอื่นๆ ได้ง่าย โดย EIC ประเมินว่า ไทยจะได้รับประโยชน์สูงที่สุด เนื่องจาก 1) ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวและปลายข้าวมากเป็นอันดับสองของโลก มีปริมาณการส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 12% และ 10% ของปริมาณการค้าข้าวและปลายข้าวโลก ตามลำดับ 2) ไทยมีผลผลิตข้าวเหลือจากการบริโภคในประเทศในระดับที่สูงกว่าผู้ส่งออกอย่าง เวียดนามและปากีสถาน  (รูปที่ 5) 3) ไทยไม่ได้มีการนำเข้าข้าวจากอินเดียมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และบริโภคในประเทศ แล้วส่งออกข้าวของตัวเองไปขายในตลาดโลกเหมือนผู้ส่งออกอันดับ 3 ของโลกอย่างเวียดนาม กล่าวคือ ในปี 2021 เวียดนามมีการนำเข้าปลายข้าวจากอินเดียสูงถึง 0.43 ล้านตัน และนำเข้าข้าวขาวและข้าวอื่นๆ 0.38 ล้านตัน (รูปที่ 4) และ 4) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่สูงกว่าอินเดียค่อนข้างมาก ส่งผลให้ไทยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดข้าวโลกให้อินเดียมาอย่างต่อเนื่อง
โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ราคาข้าวไทยสูงกว่าราคาข้าวอินเดียอยู่ถึง 26.0% (รูปที่ 6) ดังนั้น นโยบายระงับการส่งออกและจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดีย จึงจะส่งผลดีต่อไทยค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับประเทศเวียดนามและปากีสถาน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวมากที่สุดอันดับ 3 และ 4 ของโลก ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูลในอดีต จะพบว่า ส่วนแบ่งตลาดข้าวโลกของไทย เวียดนาม และปากีสถาน จะปรับตัวเพิ่มขึ้นและทรงตัวอยู่ในระดับสูง ในช่วงที่อินเดียมีนโยบายระงับการส่งออกข้าว และส่วนแบ่งตลาดจะปรับตัวลดลงหลังจากที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวอีกครั้ง (รูปที่ 6)

ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมข้าวไทย

นโยบายจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียจะส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมข้าวไทยผ่านราคาข้าวและปริมาณการส่งออกข้าว โดยราคาข้าวในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ราคาข้าวของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งราคาที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โรงสีและผู้ส่งออกข้าว แต่จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคข้าวภายในประเทศผ่านค่าครองชีพที่สูงขึ้น ในขณะที่ปริมาณการส่งออกข้าวที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความต้องการซื้อข้าวไทยเพื่อทดแทนข้าวอินเดียที่หายไปจากตลาดโลก จะส่งผลดีต่อเกษตรกร โรงสีและผู้ส่งออกข้าวเช่นเดียวกัน

นโยบายในเรื่องการส่งออกข้าวของอินเดีย จะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกเจ้าและราคาขายปลีกข้าวของไทยในปี 2023 ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกร โรงสีและผู้ส่งออก แต่จะกระทบต่อผู้บริโภค จากข้อมูลพบว่า ราคาข้าวเปลือกเจ้าและราคาขายปลีกข้าวขาวของไทยมีความสัมพันธ์และเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับราคาข้าวในตลาดโลก โดย EIC คาดว่า ในกรณีที่ 1 ราคาข้าวในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.8%YOY จะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกเจ้าและราคาขายปลีกข้าวขาวในประเทศในปี 2023 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.1%YOY และ 8.7%YOY ตามลำดับ ส่วนในกรณีที่ 2 ราคาข้าวในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 66.3% จะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกและราคาขายปลีกข้าวขาวปรับตัวเพิ่มขึ้น 46.5%YOY และ 36.4%YOY ตามลำดับ  ซึ่งราคาข้าวที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โรงสี และผู้ส่งออกข้าวปรับตัวสูงขึ้น แต่จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ที่มีการใช้ปลายข้าวเป็นวัตถุดิบในการผลิต ทั้งนี้จากข้อมูลในอดีต (รูป 7 (A) (B) ) จะพบว่า ในช่วงปี 2007 – 2011 ที่อินเดียมีการระงับการส่งออกข้าวทุกชนิด ยกเว้นข้าวบาสมาติ  ราคาข้าวเปลือกเจ้าและราคาขายปลีกข้าวของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากและทรงตัวอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนมีนโยบายระงับการส่งออกข้าว ตัวอย่างเช่นในปี 2008 ราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้น 63.5% เมื่อเทียบกับปี 2007 ซึ่งเป็นปีที่แรกที่อินเดียเริ่มระงับการส่งออกข้าว (เริ่มเดือน ต.ค.) หรือในปี 2010 ที่แม้ราคาข้าวจะปรับตัวลดลงแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าปี 2007 อยู่ถึง 29.3%

ปริมาณการส่งออกข้าวของไทยในปี 2023 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ทั้งในกรณีที่ 1
และ
2  ในกรณีที่ 1 นโยบายระงับการส่งออกปลายข้าวของอินเดีย จะทำให้ส่วนแบ่งของข้าวไทยในตลาดโลกปรับตัว
ดีขึ้น จากการที่ไม่ต้องแข่งขันกับคู่แข่งหลักอย่างอินเดียในตลาดปลายข้าวโลก ในขณะที่นโยบายจำกัดการส่งออกข้าวด้วยการเก็บภาษีส่งออกข้าว 20% จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา (Price competitiveness) ของข้าวไทยในตลาดโลกปรับตัวดีขึ้น จากราคาส่งออกข้าวของอินเดียที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเราคาดว่านโยบายของอินเดีย จะส่งผลให้ส่วนแบ่งข้าวไทยในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก 13.5% ในปี 2022 มาอยู่ที่ 16.0% ในปี 2023 ซึ่งส่วนแบ่งตลาด
ที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ปริมาณการส่งออกข้าวไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.4%YOY ไปอยู่ที่ 8.8 ล้านตัน (รูป 8 (C)) สำหรับ
ในกรณีที่ 2 ที่อินเดียมีการระงับการส่งออกข้าวเปลือก ข้าวนึ่ง ข้าวขาวและข้าวกล้องเพิ่มเติม จะส่งผลให้ไทยไม่ต้องแข่งขันกับอินเดียในตลาดข้าวโลก ซึ่งในกรณีนี้เราคาดว่า จะส่งผลให้ความต้องการนำเข้าข้าวจากไทยปรับตัวขึ้นไป
ถึง 16.8 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดด้านผลผลิตข้าวของไทยในปีเพาะปลูก 2022/2023 (ต.ค. 2022 – ก.ย. 2023) ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 19.8 ล้านตัน ทำให้ EIC ประเมินว่า ในกรณีที่ 2 ศักยภาพการส่งออกข้าวของไทยจะอยู่ที่ 12.8 ล้านตัน หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 73.0%YOY

นัยต่อการปรับตัวของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมข้าวไทย

ความต้องการข้าวไทยในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งหมด ควรจะร่วมมือกันใช้โอกาสนี้ในการดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวโลกให้กลับมา ซึ่งการที่จะสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวโลกกลับมาได้อย่างยั่งยืน ผู้เล่นในอุตสาหกรรมข้าวไทย จะต้องเร่งปรับตัวเพื่อยกระดับและรักษาความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนสูงของปัจจัยภายในและภายนอก ที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง โดยจากบทวิเคราะห์ของ EIC ก่อนหน้า (EIC In focus : ทางรอดจากภาวะถดถอยของอุตสาหกรรมข้าวไทย) ชี้ให้เห็นว่า หัวใจสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมข้าวไทย คือ การช่วยปลดล็อกขีดจำกัดของชาวนา ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการปลูกข้าว เนื่องจากความสำเร็จในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมข้าวไทยจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับกระบวนการผลิตข้าวของผู้เล่นในอุตสาหกรรมต้นน้ำเป็นหลัก เพราะต้นทุนข้าวเปลือกที่ผลิตโดยชาวนา คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของต้นทุนในการแปรรูปข้าวสารเพื่อขายและกระบวนการเพาะปลูกข้าวมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นสัดส่วน 90% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดในห่วงโซ่มูลค่าข้าวโลก

7 แนวทางในการลงทุนโดยภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อช่วยปลดล็อกขีดจำกัดของชาวนาไทย คือ 1) ลงทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านข้าวที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวนาไทย 2) ลงทุนสร้างความมั่นคงด้านแหล่งน้ำให้กับชาวนาทุกครัวเรือน 3) ลงทุนสร้างเครือข่ายความร่วมมือขนาดใหญ่ของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลง 4) ลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลและวิทยาศาสตร์ข้อมูล 5) ลงทุนสร้างห่วงโซ่มูลค่าสินค้าแปรรูปขั้นสูงจากข้าวและของเหลือจากการผลิตข้าว 6) ลงทุนสร้างห่วงโซ่มูลค่าสินค้าเกษตรมูลค่าสูงอื่น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชาวนา และ 7) ลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตลาดข้าวและตลาดปุ๋ยภายในประเทศ 

อย่างไรก็ดี แนวทางดังกล่าว ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและภาครัฐ ซึ่งหากทุกภาคส่วนร่วมมือกันเพื่อทำให้ชาวนาไทยมีความเข้มแข็งและสามารถปรับตัวได้ ก็จะช่วยแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมข้าวไทย ยกระดับและสร้างความมั่นคงด้านรายได้ให้แก่เกษตรกรต้นน้ำ รวมทั้งยังช่วยให้อุตสาหกรรมข้าวไทยสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวโลกกลับมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้อุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งระบบสามารถเติบโตไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงอีกด้วย

บทวิเคราะห์โดย… https://www.scbeic.com/th/detail/product/rice-160922

ผู้เขียนบทวิเคราะห์

นายเกียรติศักดิ์ คำสี (kaittisak.kumse@scb.co.th) นักวิเคราะห์อาวุโส                                                          

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: SCB EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ นายเกียรติศักดิ์ คำสี นโยบายควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดีย ส่งออกข้าวอินเดีย ไทยพาณิชย์

Continue Reading

Previous: พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เสร็จแล้ว “เท่าพิภพ” มั่นใจ ผ่านวาระ 2-3
Next: กรมโรงงานฯ ดีเดย์ 1 ม.ค. 67 สั่งยกเลิกใช้สารเป่าโฟมทำลายโอโซน หวังลดโลกร้อน

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

ราคาทอง ราคาทองคำวันนี้ (3 ก.ย. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 8 ครั้ง ราคาทองปรับขึ้น 750 1 min read
  • NEWS FOCUS
  • HOT NEWS

ราคาทองคำวันนี้ (3 ก.ย. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 8 ครั้ง ราคาทองปรับขึ้น 750

03/09/2025
IMG_20250902102913000000 ด่วน! “ภูมิธรรม” แถลงทูลเกล้า “ยุบสภาฯ” แล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

ด่วน! “ภูมิธรรม” แถลงทูลเกล้า “ยุบสภาฯ” แล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน

03/09/2025
SAM รุกตลาด EEC ขนทรัพย์ 4.5 พันรายการ ปลุกตลาดบ้านมือสอง SAM รุกตลาด EEC ขนทรัพย์ 4.5 พันรายการ ปลุกตลาดบ้านมือสอง 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

SAM รุกตลาด EEC ขนทรัพย์ 4.5 พันรายการ ปลุกตลาดบ้านมือสอง

03/09/2025
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยผู้ประสบภัยพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า” SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยผู้ประสบภัยพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า” 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยผู้ประสบภัยพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า”

03/09/2025
S__87965799_0 พรรคประชาชน แถลง โหวต “อนุทิน” เป็นนายกฯ คนที่ 32 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

พรรคประชาชน แถลง โหวต “อนุทิน” เป็นนายกฯ คนที่ 32

03/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์ 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

03/09/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 3 ก.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 3 ก.ย. 68

03/09/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 3 กันยายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 3 กันยายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 3 กันยายน 2568

03/09/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ.2568

03/09/2025
ราคาทอง ราคาทองคำวันนี้ (2 ก.ย. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 12 ครั้ง ราคาทองปรับขึ้น 300 1 min read
  • NEWS FOCUS
  • HOT NEWS

ราคาทองคำวันนี้ (2 ก.ย. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 12 ครั้ง ราคาทองปรับขึ้น 300

02/09/2025
SCB FM มองเงินบาทแข็ง การเมืองไร้นายกฯ ไม่กระทบ SCB FM มองเงินบาทแข็ง การเมืองไร้นายกฯ ไม่กระทบ 1 min read
  • SPECIAL REPORT
  • HOT NEWS

SCB FM มองเงินบาทแข็ง การเมืองไร้นายกฯ ไม่กระทบ

02/09/2025
บสย.พร้อมลุย กระบะมือสองมีคลังค้ำ บสย.พร้อมลุย กระบะมือสองมีคลังค้ำ 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

บสย.พร้อมลุย กระบะมือสองมีคลังค้ำ

02/09/2025

China News

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน

14/05/2025
LINEแชร์เลย! สถาบันการเงินรายใหญ่ได้พากันปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนในปีนี้ หลังจากจีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.)... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

BBL ยันระบบธนาคารขัดข้องไม่ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์ BBL ยันระบบธนาคารขัดข้องไม่ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

BBL ยันระบบธนาคารขัดข้องไม่ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์

03/09/2025
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยผู้ประสบภัยพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า” SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยผู้ประสบภัยพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า”
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยผู้ประสบภัยพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า”

03/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

03/09/2025
บสย.พร้อมลุย กระบะมือสองมีคลังค้ำ บสย.พร้อมลุย กระบะมือสองมีคลังค้ำ
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

บสย.พร้อมลุย กระบะมือสองมีคลังค้ำ

02/09/2025
ครั้งแรกในไทย Kubix ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการระบบเสนอขาย G-Token ครั้งแรกในไทย Kubix ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการระบบเสนอขาย G-Token
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

ครั้งแรกในไทย Kubix ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการระบบเสนอขาย G-Token

02/09/2025
BBL ยันระบบธนาคารขัดข้องไม่ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์

BBL ยันระบบธนาคารขัดข้องไม่ได้ถูกโจมตีทางไซเบอร์

SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยผู้ประสบภัยพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า”

SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยผู้ประสบภัยพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า”

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

บสย.พร้อมลุย กระบะมือสองมีคลังค้ำ

บสย.พร้อมลุย กระบะมือสองมีคลังค้ำ

ครั้งแรกในไทย Kubix ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการระบบเสนอขาย G-Token

ครั้งแรกในไทย Kubix ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการระบบเสนอขาย G-Token

Energy Force

ปตท.-บางจาก ปรับราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ขึ้น 40 สตางค์ต่อลิตร ปตท.-บางจาก ปรับราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ขึ้น 40 สตางค์ต่อลิตร 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

ปตท.-บางจาก ปรับราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ขึ้น 40 สตางค์ต่อลิตร

21/08/2025
LINEแชร์เลย! ปตท.-บางจาก ปรับราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ขึ้น PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด เพิ่มขึ้น 0.40... อ่านต่อ

Politics

IMG_20250902102913000000 ด่วน! “ภูมิธรรม” แถลงทูลเกล้า “ยุบสภาฯ” แล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

ด่วน! “ภูมิธรรม” แถลงทูลเกล้า “ยุบสภาฯ” แล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน

03/09/2025
S__87965799_0 พรรคประชาชน แถลง โหวต “อนุทิน” เป็นนายกฯ คนที่ 32 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

พรรคประชาชน แถลง โหวต “อนุทิน” เป็นนายกฯ คนที่ 32

03/09/2025
480916940_654380930470226_8297075050889927138_n สส.ศักดิ์ดา ทิ้งบอมบ์ เพื่อไทย บริหารล้มเหลว เดือดร้อนทั้งประเทศ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

สส.ศักดิ์ดา ทิ้งบอมบ์ เพื่อไทย บริหารล้มเหลว เดือดร้อนทั้งประเทศ

02/09/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเลเซีย รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

ประชุมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 3/2568 ประชุมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 3/2568 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ประชุมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 3/2568

03/09/2025
BAM ดึง 3 อรหันต์นั่งบอร์ดนวัตกรรมและพัฒนาองค์กร ขับเคลื่อนสู่ BAMX Transformation BAM ดึง 3 อรหันต์นั่งบอร์ดนวัตกรรมและพัฒนาองค์กร ขับเคลื่อนสู่ BAMX Transformation 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

BAM ดึง 3 อรหันต์นั่งบอร์ดนวัตกรรมและพัฒนาองค์กร ขับเคลื่อนสู่ BAMX Transformation

03/09/2025
กสิกรไทย–SC Asset หนุนลูกบ้านใช้โซลาร์ผ่าน GreenPass กสิกรไทย–SC Asset หนุนลูกบ้านใช้โซลาร์ผ่าน GreenPass 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

กสิกรไทย–SC Asset หนุนลูกบ้านใช้โซลาร์ผ่าน GreenPass

03/09/2025
CEO BAM ขึ้นเวทีใหญ่ตลาดหลักทรัพย์ฯ Thailand Focus 2025 CEO BAM ขึ้นเวทีใหญ่ตลาดหลักทรัพย์ฯ Thailand Focus 2025 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

CEO BAM ขึ้นเวทีใหญ่ตลาดหลักทรัพย์ฯ Thailand Focus 2025

29/08/2025

Recommend

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ

16/08/2025
"จุลพันธ์" มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  “จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง 

13/08/2025
ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง

11/08/2025
"ทรัมป์" ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา “ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา

29/07/2025

Photo Stories

“ธนารักษ์” จัดงาน Hackathon #HackLandValue เฟ้นหานโยบายและนวัตกรรม “ธนารักษ์” จัดงาน Hackathon #HackLandValue เฟ้นหานโยบายและนวัตกรรม 1 min read
  • PHOTO STORIES

“ธนารักษ์” จัดงาน Hackathon #HackLandValue เฟ้นหานโยบายและนวัตกรรม

03/09/2025
ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ได้รางวัลสุดยอดห้องน้ำแห่งปี 2568 ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ได้รางวัลสุดยอดห้องน้ำแห่งปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ได้รางวัลสุดยอดห้องน้ำแห่งปี 2568

03/09/2025
ศุลกากร จับมือ อย. ลงนาม MOU ยกระดับนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพ ศุลกากร จับมือ อย. ลงนาม MOU ยกระดับนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพ 1 min read
  • PHOTO STORIES

ศุลกากร จับมือ อย. ลงนาม MOU ยกระดับนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพ

03/09/2025
บสย. – สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร หารือค้ำประกัน SMEs บสย. – สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร หารือค้ำประกัน SMEs 1 min read
  • PHOTO STORIES

บสย. – สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร หารือค้ำประกัน SMEs

03/09/2025
SCBX เข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งโครงการ FinTechAI@CSAIL ของ MIT SCBX เข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งโครงการ FinTechAI@CSAIL ของ MIT 1 min read
  • PHOTO STORIES

SCBX เข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งโครงการ FinTechAI@CSAIL ของ MIT

02/09/2025
เปิดมุมใหม่ศูนย์ราชการฯ DAD เยี่ยม Co-Working Space และ Big Gym อาคาร C เปิดมุมใหม่ศูนย์ราชการฯ DAD เยี่ยม Co-Working Space และ Big Gym อาคาร C 1 min read
  • PHOTO STORIES

เปิดมุมใหม่ศูนย์ราชการฯ DAD เยี่ยม Co-Working Space และ Big Gym อาคาร C

02/09/2025
ออมสิน ขยายผลโปรเจกต์ “ลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา” สู่ชุมชนเข้มแข็ง-คาร์บอนต่ำ ออมสิน ขยายผลโปรเจกต์ “ลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา” สู่ชุมชนเข้มแข็ง-คาร์บอนต่ำ 1 min read
  • PHOTO STORIES

ออมสิน ขยายผลโปรเจกต์ “ลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา” สู่ชุมชนเข้มแข็ง-คาร์บอนต่ำ

02/09/2025
ธอส. ร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 มอบบ้านใหม่ผู้ยากไร้ 26 จังหวัดภาคกลาง ธอส. ร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 มอบบ้านใหม่ผู้ยากไร้ 26 จังหวัดภาคกลาง 1 min read
  • PHOTO STORIES

ธอส. ร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 มอบบ้านใหม่ผู้ยากไร้ 26 จังหวัดภาคกลาง

01/09/2025
บสย. มอบตู้ยาสามัญ–เวชภัณฑ์ แก่หมู่บ้านเด็กโสสะภูเก็ตฯ บสย. มอบตู้ยาสามัญ–เวชภัณฑ์ แก่หมู่บ้านเด็กโสสะภูเก็ตฯ 1 min read
  • PHOTO STORIES

บสย. มอบตู้ยาสามัญ–เวชภัณฑ์ แก่หมู่บ้านเด็กโสสะภูเก็ตฯ

01/09/2025
ประธานบอร์ด–CEO นำทีม BAM เยี่ยม สนง.หาดใหญ่ ประธานบอร์ด–CEO นำทีม BAM เยี่ยม สนง.หาดใหญ่ 1 min read
  • PHOTO STORIES

ประธานบอร์ด–CEO นำทีม BAM เยี่ยม สนง.หาดใหญ่

01/09/2025
สรรพสามิตรับโล่รับรองมาตรฐาน GECC ปี 2568 สรรพสามิตรับโล่รับรองมาตรฐาน GECC ปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

สรรพสามิตรับโล่รับรองมาตรฐาน GECC ปี 2568

29/08/2025
DAD – TGO ผนึกกำลังลดโลกร้อน DAD – TGO ผนึกกำลังลดโลกร้อน 1 min read
  • PHOTO STORIES

DAD – TGO ผนึกกำลังลดโลกร้อน

29/08/2025
SCB คว้ารางวัลความร่วมมือเด่นจาก กยศ. SCB คว้ารางวัลความร่วมมือเด่นจาก กยศ. 1 min read
  • PHOTO STORIES

SCB คว้ารางวัลความร่วมมือเด่นจาก กยศ.

29/08/2025
DAD–บช.ก.–เมทเธียร์ ผนึกดิจิทัล คุมเข้มศูนย์ราชการฯ DAD–บช.ก.–เมทเธียร์ ผนึกดิจิทัล คุมเข้มศูนย์ราชการฯ 1 min read
  • PHOTO STORIES

DAD–บช.ก.–เมทเธียร์ ผนึกดิจิทัล คุมเข้มศูนย์ราชการฯ

29/08/2025
อบรมผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หลักสูตร SOE PRO ครั้งที่ 3 อบรมผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หลักสูตร SOE PRO ครั้งที่ 3 1 min read
  • PHOTO STORIES

อบรมผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หลักสูตร SOE PRO ครั้งที่ 3

28/08/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM