สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 5 ก.ย. 65

ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.ตราด (171) จ.พังงา (155 มม.) กรุงเทพมหานคร (111 มม.)
เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขัง ในช่วงวันที่ 4-10 ก.ย. 65 ดังนี้
ภาคเหนือ จ.น่าน ตาก และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคกลาง จ.กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี และสุพรรณบุรี
ภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา กระบี่ และภูเก็ต
เฝ้าระวังแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำมากเกินเกณฑ์ควบคุม จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ อ่างฯ แม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ อ่างฯ แควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก อ่างฯ น้ำพุง จ.สกลนคร อ่างฯ อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น อ่างฯ ขุนด่านปราการชล จ.นครนายก และอ่างฯ นฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรี รวมทั้งอ่างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำทั่วประเทศ
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 52,118 ล้าน ลบ.ม. (63%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 45,582 ล้าน ลบ.ม. (64%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ แม่งัด แควน้อย ป่าสักชลสิทธิ์ อุบลรัตน์ ขุนด่านปราการชล หนองปลาไหล และบึงบระเพ็ด
กอนช. ติดตามความพร้อมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย ปี 2565 ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ณ จังหวัดปทุมธานี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วานนี้ (วันที่ 4 ก.ย. 65) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ตรวจสอบความพร้อมของแนวพนังกั้นน้ำโดยรอบบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามนโยบายพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. มีข้อห่วงใยต่อประชาชนที่อาศัยอยู่รอบพื้นที่คันกั้นน้ำที่อาจได้รับผลกระทบ หากเกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งหรือน้ำทะเลหนุนสูง จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งสำรวจสภาพคันกั้นน้ำหรือคันดิน หากมีจุดใดชำรุดเสียหาย ให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมทั้งการเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราวบริเวณจุดเชื่อมต่อที่ชำรุด หรือจุดที่เป็นฟันหลอ เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนด้วย
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และ สสน. พบว่า ในช่วงตั้งแต่วันนี้ถึง 8 ก.ย.นี้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ รวมทั้งคาดการณ์ฝน One Map ช่วงเดือน ก.ย.–ต.ค. ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ โดย กอนช. ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยที่อาจเกิดน้ำท่วม และให้ดำเนินงานตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม โดยปรับแผนการระบายน้ำจากเขื่อนและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ เร่งระบายน้ำในลำน้ำและแม่น้ำ เพื่อรองรับปริมาณน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน ลดผลกระทบความรุนแรงของอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ