‘นายณ์ฯ’ผุดอสังหาฯภูเก็ตรับกลุ่มเศรษฐีวัยเกษียณ
“นายณ์ฯ” เผยแผนลงทุนปี 62 ผุด 4 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท มุ่งมั่นพัฒนาโครงการอสังหาฯในภูเก็ต รองรับกลุ่มวัยเกษียณทั้งในและต่างประเทศ คาดปีนี้ ได้แน่ ยอดรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นกว่า 4,800 ล้านบาท
นางอรฤดี ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี ในเครือนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า เราเห็นวงจรตลาดอสังหาริมทรัพย์มาตลอด ช่วงที่มีปัญหาทางการเมือง บริษัทฯยังขายได้อยู่ และเชื่อว่าประเทศไทยตอนนี้ เดียวรัฐบาลก็ตั้งได้ เราอยู่มาจนชิน ซึ่งเป็นสภาพที่อยู่ด้วยข้อจำกัด ดังนั้น ช่วงไหนไม่ดี เราก็ต้องพิจารณาดูจังหวะในการทำธุรกิจ ขณะที่การพัฒนาโครงการ เรื่องทำเล(โลเคชั่น) ยังเป็นสิ่งสำคัญ ทุกวันนี้ คนยังอยากอยู่ในเมือง แต่ที่ดินหากยาก เจ้าของที่ไม่ขายและราคาแพงอยู่
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2562 นั้น นายณ์ฯ จะมีความหลากหลายในการลงทุน โดยวางเป้าเปิดตัว 4 โครงการ มูลค่าราว 8,000 ล้านบาท โดยโครงการแรกเป็นการร่วมทุนกับ 3 พันธมิตร ได้แก่ บมจ. ชีวาทัยฯ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ฯ และบมจ.ช.การช่างฯ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ บริษัท กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการที่พักอาศัยระดับพรีเมียม เพื่อไลฟ์สไตล์วัยเกษียณที่เหนือระดับบนเกาะภูเก็ต (Lifestyle Senior Living Village) บนเนื้อที่ 50 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ซึ่งจะมีทั้งคอนโดมิเนียมและวิลล่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสร้างห้องตัวอย่าง เพื่อเตรียมพร้อมเปิดการขายโครงการในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งรูปแบบจะไม่เหมือนคอนโดมิเนียม แต่มุ่งสร้างกิจกรรม การมีส่วนร่วมของกลุ่มวัยเกษียณ เรามีการกำหนดอายุของกลุ่มลูกค้าต้อง 55 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นสังคมในวัยเดียวกัน โดยมีการบริหารและดำเนินงานโดย Otium Living ผู้เชี่ยวชาญด้านที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัยชั้นนำระดับนานาชาติ
“ประเทศไทยได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ที่จะเข้ามาพักผ่อนในช่วงวัยเกษียณ เนื่องจากราคาอสังหาฯเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย อย่างเช่น ฮ่องกง ของไทยจะถูกกว่า ดังนั้น รูปแบบ ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง ต้องมากกกว่าโรงแรม ซึ่งแต่ละโลเคชั่น แต่ละจังหวัด ก็มีสภาพไม่เหมือนกัน เช่น ที่ภูเก็ต ฝรั่งชอบเล่นทะเล ถ้าเป็นเขาใหญ่ อาจเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม สุขภาพ แต่ถ้าเป็นในเมือง กลุ่มคนชอบเที่ยวในเมือง “
โครงการที่สอง จะเป็นรูปโครงการคอนโดมิเนียมในซ.ร่วมฤดี ตรงนี้จะเป็นการร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการ ส่วนโครงการที่ 3 จะเป็นตลาดบ้านเดี่ยว ราคาระดับกลาง และอีกโครงได้ที่มาแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดย 2 โครงการหลัง จะเป็นการลงทุนโดยตรงของนายณ์ฯ
ในส่วนของสินค้าที่อยู่ระหว่างการขายมีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยในปีนี้ คาดจะมียอดรับรู้รายได้แบ่งตามสัดส่วนการถือหุ้นในแต่ละโครงการ รวมแล้วจะมีตัวเลขเข้ามาประมาณ 4,680 ล้านบาท
นอกจากนี้ นายณ์ฯกำลังสร้างโมเดลในเรื่องของการมีรายได้ค่าเช่าที่มั่นคง ผ่านโครงการร่วมทุนกับบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ถือหุ้น 40% เช่าที่ดินผืนงามกลางสีลมจากบริษัท สิวะดล จำกัด ขึ้นโครงการอาคารสำนักงานระดับพรีเมียมและมีร้านค้าเชิงพาณิชย์ (Mixed Use) มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท