สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 31 ส.ค. 65
ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.นราธิวาส (95 มม.) จ.พัทลุง (65 มม.) และ จ.ยะลา (64 มม.)
+เขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิมอัตรา 1,649 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 1,660 – 1,700 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชนบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนี้ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ปัจจุบันน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ มีแนวโน้มลดลง จึงได้ปรับลดการระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างฯ ตามเกณฑ์ที่เหมาะสมในอัตรา 300 ลบ.ม./วินาที จากเดิม 430 ลบ.ม./วินาที
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 51,871 ล้าน ลบ.ม. (63%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 45,309 ล้าน ลบ.ม. (63%) เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ แม่งัด แควน้อย บึงบอระเพ็ด ป่าสักชลสิทธิ์ อุบลรัตน์ น้ำพุง ขุนด่าน นฤบดินทรจินดา บางพระ และหนองปลาไหล
กอนช. ประกาศ ฉบับที่ 34/2565 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง และอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมาก กอนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์
จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ดังนี้
1. พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำระดับน้ำท่วมขังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.30 – 0.50 ม. ในช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 10 ก.ย. 65
1.1 ลุ่มน้ำชี
ลำน้ำพรมและลำน้ำเชิญ บริเวณ จ.ชัยภูมิ
แม่น้ำชีและลำน้ำพอง บริเวณ จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ยโสธร และร้อยเอ็ด
ลำน้ำยัง บริเวณ จ.กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด
1.2 ลุ่มน้ำมูล
แม่น้ำมูล บริเวณ จ.นครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ลำโดมใหญ่ บริเวณ จ.อุบลราชธานี
ลำเซบก บริเวณ จ.อุบลราชธานี
2. เฝ้าระวังแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำมากเกินเกณฑ์ควบคุม จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ อ่างฯ แม่งัดสมบูรณ์ชล
จ.เชียงใหม่ อ่างฯ แควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก อ่างฯ น้ำพุง
จ.สกลนคร อ่างฯ อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น อ่างฯ ขุนด่านปราการชล
จ.นครนายก และอ่างฯ นฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรี รวมทั้งอ่างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ทั่วประเทศในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 31 ส.ค. 2565 ดังนี้
1. ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
1.1 ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 33/2565 ลงวันที่ 23 ส.ค. 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงวันที่ 26 – 31 ส.ค. 2565 ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม บริเวณอำเภอกันทรวิชัย และเมืองมหาสารคาม จังหวัดกาฬสินธุ์ บริเวณอำเภอกมลาไสย กุฉินารายณ์ ฆ้องชัย และร่องคำจังหวัดร้อยเอ็ด บริเวณอำเภอจังหาร เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง ธวัชบุรี พนมไพร โพธิ์ชัย โพนทอง เมยวดี เสลภูมิ และอาจสามารถ จังหวัดยโสธร บริเวณอำเภอค้อวัง คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และเมืองยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ บริเวณอำเภอกันทรารมย์ และยางชุมน้อย จังหวัดอุบลราชธานี บริเวณอำเภอเขื่องใน และเมืองอุบลราชธานี
1.2 ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 34/2565 ลงวันที่ 30 ส.ค. 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง และอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมาก ในช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 10 ก.ย. 2565 มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำระดับน้ำท่วมขังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 0.30 – 0.50 เมตร ได้แก่ ลุ่มน้ำชี ลำน้ำพรมและลำน้ำเชิญ บริเวณจังหวัดชัยภูมิ แม่น้ำชีและลำน้ำพอง บริเวณจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ยโสธร และร้อยเอ็ด ลำน้ำยัง บริเวณจังหวัดกาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ลุ่มน้ำมูล แม่น้ำมูล บริเวณจังหวัดนครราชสีมา ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ลำโดมใหญ่ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี และลำเซบก บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี และเฝ้าระวังแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำมากเกินเกณฑ์ควบคุม จำนวน ๖ แห่ง ได้แก่ อ่างฯ แม่งัดสมบูรณ์ชล แควน้อยบำรุงแดน น้ำพุง อุบลรัตน์ ขุนด่านปราการชล และนฤบดินทรจินดา รวมทั้งอ่างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ทั่วประเทศ
2. สภาพอากาศ
การคาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 3 ก.ย. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 5 ก.ย. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
3. สถานการณ์น้ำท่วม
จากสถานการณ์ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่พายุโซนร้อน “หมาอ๊อน” (MA-ON) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก และที่ผ่านมาพบว่าหลายพื้นที่มีปริมาณฝนตกสะสมมากกว่า 150 มม. และปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก ลําน้ำสาขามีปริมาณมากในบริเวณลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มนํ้าชี ลุ่มน้ำมูล รวมถึงการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา 1,500 – 1,800 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่เฝ้าระวัง ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำปาง พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรีนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง อุดรธานีขอนแก่น อุบลราชธานีชัยภูมิ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร บุรีรัมย์ และสุราษฏร์ธานี