สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 24 ส.ค. 65

ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักบริเวณ จ.พังงา (81 มม.) จ.บึงกาฬ (56 มม.) และ จ.อุทัยธานี (41 มม.)
เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 24–29 ส.ค. 65 ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้น ประมาณ 1.90–2.20 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง อาจส่งผลกระทบต่อบริเวณพื้นที่ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่ จ.นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร
เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน บริเวณจ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์อุตรดิตถ์ ตาก กาฬสินธุ์ นครพนม บึงกาฬ สกลนคร หนองคายอุดรธานี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ ระยอง จันทบุรี ตราดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา
พื้นที่ประสบอุทกภัย ในระหว่างวันที่ 20 – 23 ส.ค. 65ยังคงมีสถานการณ์ในบริเวณพื้นที่ จ.ลำปาง เพชรบูรณ์ แพร่ พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง อุบลราธานี ขอนแก่น อุดรธานี และปราจีนบุรี
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 50,982 ล้าน ลบ.ม. (62%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 44,418 ล้าน ลบ.ม. (62%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ แม่งัด กิ่วคอหมา กิ่วลม แควน้อย ป่าสักชลสิทธิ์ อุบลรัตน์ น้ำพุง หนองปลาไหล และบึงบระเพ็ด
ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้มีประกาศ ฉบับที่ 31/2565 เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 65 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงวันที่ 22 –25 ส.ค. 65 กอนช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำ พบว่ามีฝนตกหนักในลุ่มน้ำชี ในช่วงวันที่ 19-22 ส.ค. 65 พร้อมทั้งได้ประเมินคาดการณ์สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และจะมีระดับน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำชีไหลหลากเข้าท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำเกษตรกรรม พื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ และพื้นที่ชุมชน ประมาณ 0.30–1.50 เมตร จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง ในช่วงวันที่ 26 – 31 ส.ค. 65 ดังนี้
จ.มหาสารคาม บริเวณ อ.กันทรวิชัย และเมืองมหาสารคาม
จ.กาฬสินธุ์ บริเวณ อ.กมลาไสย กุฉินารายณ์ ฆ้องชัย และร่องคำ
จ.ร้อยเอ็ด บริเวณ อ.จังหาร เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง ธวัชบุรี พนมไพร โพธิ์ชัย โพนทอง เมยวดี เสลภูมิ และอาจสามารถ
จ.ยโสธร บริเวณ อ.ค้อวัง คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และเมืองยโสธร
จ.ศรีสะเกษ บริเวณ อ.กันทรารมย์ และยางชุมน้อย
จ.อุบลราชธานี บริเวณ อ. เขื่องใน และเมืองอุบลราชธานี
กอนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเตรียมพร้อมหากเกิดสถานการณ์
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 24 ส.ค. 2565 ดังนี้
1.ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 33/2565 ลงวันที่ 23 ส.ค. 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงวันที่ 26 – 31 ส.ค. 25651 ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม บริเวณอำเภอกันทรวิชัย และเมืองมหาสารคาม จังหวัดกาฬสินธุ์ บริเวณอำเภอกมลาไสย กุฉินารายณ์ ฆ้องชัย และร่องคำจังหวัดร้อยเอ็ด บริเวณอำเภอจังหาร เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง ธวัชบุรี พนมไพร โพธิ์ชัย โพนทอง เมยวดี เสลภูมิ และอาจสามารถ จังหวัดยโสธร บริเวณอำเภอค้อวัง คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และเมืองยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ บริเวณอำเภอกันทรารมย์ และยางชุมน้อย จังหวัดอุบลราชธานี บริเวณอำเภอเขื่องใน และเมืองอุบลราชธานี
2. สภาพอากาศ
การคาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 24 – 26 ส.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หมาอ๊อน” (MA-ON) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 23–24 ส.ค. 65 และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งด้านตะวันออกของประเทศจีนตอนใต้ ในวันที่ 25 ส.ค. 65 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
3. สถานการณ์น้ำท่วม
ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง โดยตั้งแต่วันที่ 15 – 23 ส.ค. 2565 เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ 28 จังหวัด (เชียงราย ลําปาง แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก เพชรบูรณ์พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร ลําพูน ตาก นครสวรรค์มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิศรีสะเกษ มุกดาหาร บึงกาฬ ยโสธร อุบลราชธานี อุดรธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง พังงา และภูเก็ต) 74 อำเภอ 193 ตำบล 627 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 14,657 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 17 จังหวัด (ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และแพร่ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด และอุดรธานี และภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว)