Skip to content
Fri. Nov 14th, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • NATIONAL

ความท้าทายของอุตสาหกรรมเหล็กไทยในยุค Net zero

23/08/2022 2 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,205

แม้ว่าไทยมีการผลิตเหล็กเพื่อใช้ในประเทศ แต่ความต้องการที่ยังสูงกว่ากำลังการผลิต จึงทำให้ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้า โดยเฉพาะจากจีน จีนเป็นซัพพลายเออร์เหล็กที่สำคัญของไทย ส่งผลให้ราคาเหล็กในประเทศมีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของราคาเหล็กในจีนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ที่ราคาเหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาเหล็กไทย อาทิ การปิดเหมืองแร่เหล็กและโรงงานผลิตเหล็กในจีน จากมาตรการด้านมาตรฐานและสิ่งแวดล้อมการล็อกดาวน์ ทำให้ Supply เหล็กลดลง รวมถึงราคาพลังงานที่เป็นต้นทุนในการผลิตเหล็กเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปี 2022 ราคาเหล็กมีแนวโน้มปรับตัวลดลง

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอย่างรุนแรง ทำให้หลายประเทศตื่นตัวกับการผลิตเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จากการลด Carbon intensity ของกระบวนการผลิต และอาจส่งผลต่อการส่งออกเหล็กไทย หากยังไม่มีการลดการปล่อย GHG

ประเทศผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก เช่น จีน EU ญี่ปุ่น พยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ที่เกิดจากกระบวนการผลิตเหล็ก ไม่ว่าจะเป็นการปรับกระบวนการผลิต เช่น การปรับเปลี่ยนระบบเตาหลอม การปรับปรุงเทคโนโลยีและเทคนิคการผลิตโดยใช้ไฮโดรเจน และพลังงานสะอาดหมุนเวียนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มาตรการที่ป้องกันไม่ให้สินค้าที่มีความเข้มข้นของการปล่อย CO2 สูง (Carbon intensity) ที่ผลิตจากประเทศที่ไม่มีข้อกำหนดด้านการปล่อย GHG ที่เข้มงวด เข้ามาแข่งขันกับสินค้าในประเทศ เช่น มาตรการ CBAM ของ EU จะเป็นแรงกดดันให้เกิดการปรับปรุงกระบวนการผลิตเหล็กทั่วโลก และอาจส่งผลไปถึงสินค้าที่มีส่วนประกอบของเหล็กจากไทยที่ส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ที่เคร่งครัดต่อมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต หากยังไม่มีการปรับปรุงปริมาณการปล่อย GHG จากกระบวนการผลิต 

สำหรับประเทศไทย ซึ่งผลิตเหล็กกลางน้ำ และปลายน้ำนั้น การส่งเสริมให้รีไซเคิลเหล็กเพิ่มขึ้น ควบคู่การเปลี่ยนเตาหลอมเป็น EAF จะเป็นกลไกสำคัญในการลดการปล่อย GHG

หากประเทศไทยจะลดการปล่อย GHG ด้วยการลดการผลิตเหล็กในประเทศลง และหันไปพึ่งพาเหล็กนำเข้ามากขึ้น จะส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งผู้ผลิตเหล็กในประเทศ และอุตสาหกรรมที่ใช้เหล็กปริมาณมาก ดังนั้น การรีไซเคิลเหล็ก เป็นทางเลือกที่ส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของทรัพยากรที่ใช้แล้ว ให้กลับมาเกิดประโยชน์ใหม่ได้ รวมถึงการเปลี่ยน หรือ ปรับปรุงเทคโนโลยี และเทคนิคการผลิต เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องลงทุน เพื่อปรับตัวลด Carbon intensity โดยเตาหลอม EAF จะช่วยลดอุปสรรคจากการหาเศษเหล็กที่มีคุณภาพ ทำให้สามารถรีไซเคิลเศษเหล็กที่มีคุณภาพแตกต่างกันในปริมาณมากขึ้น

การกำหนดเกณฑ์ความเข้มข้นของ GHG จากการผลิตเหล็กให้ชัดเจน จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเหล็กไทย รวมถึงภาครัฐควรออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ภาครัฐควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์ของการเป็น Green steel จากปริมาณความเข้มข้นของ GHG ที่ปล่อยออกมาจากการผลิตเหล็กให้ชัดเจน เพื่อให้มีมาตรฐานตัวชี้วัดสำหรับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเหล็ก อีกทั้ง การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีต้นทุนค่อนข้างสูง และผู้ผลิตเหล็กไทยบางส่วนยังไม่มีความพร้อมสำหรับการลงทุน ภาครัฐจึงควรออกมาตรการส่งเสริมให้ผู้ผลิตเหล็กสามารถปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น เช่น ให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี สนับสนุนทางด้านการเงิน ยกเว้นภาษีนำเข้าหากมีการลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักร ส่งเสริมกลไกการระดมทุนผ่าน Green bond หรือ Sustainability bond รวมถึงมาตรการกระตุ้นการใช้เหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป ขณะที่ผู้ผลิตเหล็กไทยควรใช้โอกาสในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ในหลายประเทศต่างก็เริ่มดำเนินมาตรการ

ในการปกป้องสิ่งแวดล้อม เร่งวางแผนการดำเนินธุรกิจ ลดการใช้พลังงาน และ Carbon intensity ในกระบวนการผลิต เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเหล็กไทยให้สอดคล้องไปกับกระแส Net zero

สถานการณ์เหล็กไทยในช่วงที่ผ่านมา และปี 2022 เป็นอย่างไร ?

ราคาเหล็กในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากปี 2021 จากต้นทุนพลังงาน และการล็อกดาวน์ในจีน ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปี ราคาเหล็กมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในปี 2021 มีสาเหตุจากปริมาณการผลิตเหล็กจีนที่ลดลงจากมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม และการควบคุมคุณภาพเหล็กในจีน สำหรับในปี 2022 สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความตึงเครียด ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2022 ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของราคาเหล็กจีนมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับการเคลื่อนไหวของราคาถ่านหิน และราคาน้ำมันในตลาดโลก เนื่องจากเป็นต้นทุนที่สำคัญในอุตสาหกรรมเหล็ก ประกอบกับมาตรการ Zero COVID ของจีน ที่มีการล็อกดาวน์เพื่อลดการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนให้เหลือศูนย์ มีส่วนทำให้ซัพพลายเหล็กจากจีนลดลง จากการปิดเหมืองแร่เหล็กและถ่านหิน และโรงงานเหล็ก ส่งผลให้ราคาเหล็กของจีนในเดือนเมษายน 2022 แตะระดับ 6,000 หยวน/ตัน ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยกว่า 25-30% ต่อปี เมื่อเทียบกับราคาเหล็กในช่วงต้นปี 2020 ทั้งนี้จากการที่ราคาเหล็กของไทยมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับราคาเหล็กในจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไทยพึ่งพาการนำเข้าเหล็กจากจีนเป็นหลัก จึงส่งผลให้ราคาเหล็กไทย รวมถึงราคาเศษเหล็ก บิลเล็ต และเหล็กแท่งแบน (Slap) นำเข้า ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเหล็กกลางน้ำ และปลายน้ำของไทย ต่างปรับตัวขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของราคาเหล็กจีนด้วยเช่นกัน ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปี 2022 ราคาเหล็กไทยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงไปตามต้นทุนพลังงาน อีกทั้ง ความต้องการใช้เหล็กในจีนที่ชะลอลง
ประกอบกับรัสเซียมีการระบายเหล็กมาทางเอเชียมากขึ้น จากที่เคยส่งออกเหล็กไป EU ยิ่งกดดันให้ราคาเหล็กจีนปรับตัวลดลง

EIC คาดปริมาณการใช้เหล็กในประเทศปี 2022 อยู่ที่ 19.2 ล้านตัน (+2%YOY) โดยส่วนใหญ่ยังเป็นการใช้เหล็กนำเข้า ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเหล็กในประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 การผลิตเหล็กในประเทศ และการใช้เหล็กหดตัว -6.4%YOY และ -16.9%YOY ตามลำดับ เป็นผลมาจากการผลิตรถยนต์ที่ชะลอตัว เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ประกอบกับการก่อสร้างภาคเอกชนที่ฟื้นตัวได้ช้า อีกทั้งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ยังชะลอตัวจากความกังวลต่อการระบาดของ COVID-19 ที่มีความไม่แน่นอน สำหรับในช่วงที่เหลือของ ปี 2022 EIC มองว่า การผลิตเหล็กของไทยจะถูกกดดันจากฝั่งอุปสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตรถยนต์ที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้คาดว่า ปริมาณการใช้เหล็กในประเทศโดยรวมในปี 2022 จะอยู่ที่ 19.2 ล้านตัน (+2%YOY) ขยายตัวเล็กน้อยจากปี 2021 โดยเป็นการขยายตัวจากทั้งการใช้เหล็กนำเข้า และการใช้เหล็กจากในประเทศ

ทั้งนี้กว่า 90% ของการผลิตเหล็กในไทยเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ซึ่งยังไม่เพียงพอกับความต้องการใช้เหล็กภายในประเทศ ประกอบกับไทยสามารถผลิตเหล็กได้เพียงระดับเหล็กกลางน้ำ ถึงเหล็กปลายน้ำ จึงทำให้ไทยยังคงพึ่งพาการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก จึงส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเหล็กในประเทศในปี 2022 ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ

ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหล็กอย่างไร ?

การผลิตเหล็กโลกใช้พลังงานจากถ่านหินสัดส่วนสูง จึงมีการปล่อย GHG ในปริมาณที่มากตามไปด้วย โดยเฉพาะกระบวนการถลุงแร่เหล็ก และการหลอมเหล็ก ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความร้อนสูง โดยถ่านหินเป็นแหล่งเชื้อเพลิงหลักในกระบวนการดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนราว 75% ของการใช้พลังงานทั้งหมด รองลงมาเป็นการใช้

แหล่งเชื้อเพลิงจากไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นสัดส่วนราว 13% และ 8% ของการใช้พลังงานทั้งหมดตามลำดับ นอกจากนี้ ข้อมูลจาก World Steel Association ระบุว่า การผลิตเหล็กทุก ๆ 1 ตัน จะมีการปล่อย GHG ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้จากแหล่งพลังงานออกมามากถึง 1.85 ตัน และใช้น้ำมากถึงกว่า 128,704 ลิตร ในกระบวนการหล่อเย็น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการผลิตเหล็กส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะจากการปล่อย GHG ดังนั้น ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลกจึงมีความพยายามในการลดการปล่อย GHG ที่เกิดจากกระบวนการผลิตในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับกระบวนการผลิต เช่น การปรับเปลี่ยนระบบเตาหลอม การปรับปรุงเทคโนโลยีและเทคนิคการผลิต โดยใช้ไฮโดรเจน และพลังงานสะอาดหมุนเวียนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ภาครัฐของหลายประเทศก็ยังออกมาตรการในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเหล็กสามารถลดการปล่อย GHG เช่น การสนับสนุนด้านเงินทุน และการระดมทุนเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยี การกำหนดราคาคาร์บอนด้วยเช่นกัน

ประเทศผู้ผลิตเหล็กรายสำคัญของโลก เช่น จีน EU ญี่ปุ่น เริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จีนได้มีการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเหล็กให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2021 โดยได้ดำเนินมาตรการด้านมาตรฐานเหล็ก และสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น ด้วยการสั่งปิดโรงงานผลิตเหล็กที่มีการใช้เตาหลอมเหล็กด้วยระบบอินดักชั่น หรือระบบเหนี่ยวนำไฟฟ้า (Induction Furnace : IF) และหันมาสนับสนุนการหลอมเหล็กโดยใช้เตาหลอมระบบอาร์คไฟฟ้า (Electric Arc Furnace : EAF) มากขึ้น เนื่องจากกระบวนการหลอมเหล็กโดยใช้เตาหลอม IF มีการปล่อย GHG มากกว่าเตาหลอม EAF และคุณภาพของเหล็กที่ได้จากเตาหลอม IF ก็ยังขึ้นอยู่กับคุณภาพของเศษเหล็ก ทำให้คุณภาพของเหล็กที่ได้มาจากเตาหลอม IF มีคุณภาพที่ไม่สม่ำเสมอ และควบคุมได้ยากกว่าการหลอมเหล็กจากเตาหลอม EAF อีกด้วย โดยคาดว่าผลจากการดำเนินนโยบายดังกล่าว ทำให้จีนลดการปล่อย GHG ได้ทันทีถึงราว 0.5% ของ GHG ที่ถูกปล่อยออกมาจากภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดของจีน

สำหรับสหภาพยุโรป (EU) ได้มีการกำหนดมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน หรือ Carbon Boarder Administrative Management (CBAM) ซึ่งเป็นกลไกที่ EU นำมาใช้ป้องกันการรั่วไหลของคาร์บอน (Carbon leakage) จากการนำเข้าเหล็กจากประเทศที่ไม่มีการกำหนดราคาคาร์บอน ซึ่งจะส่งผลให้เหล็กที่ถูกผลิตใน EU ไม่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากมีต้นทุนด้านราคาคาร์บอนที่สูงกว่า โดยเหล็กและเหล็กกล้าเป็น 1 ใน 5 รายการสินค้า[1] ที่จะถูกบังคับใช้กับ CBAM ที่ผู้ผลิตเหล็กนอก EU ถูกกำหนดให้ต้องรายงานการปล่อย GHG ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมการผลิตในปี 2023-2025 อีกทั้ง ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ผู้นำเข้าเหล็กใน EU จะต้องประกาศ และซื้อใบรับรองการจ่ายค่าธรรมเนียม CBAM (CBAM Certificates) เพื่อให้ครอบคลุมการปล่อย GHG ที่เกิดจากการผลิตสินค้าเหล็กที่มีการนำเข้ามาใน EU ซึ่ง De Nederlandsche Bank (DNB) คาดการณ์ว่าเมื่อมีการใช้ CBAM และภาษีคาร์บอนด้วยกันแล้วผู้นำเข้าเหล็กของ EU จะมีต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้นประมาณ 1.3% แต่ต้นทุนจากภาษีคาร์บอนส่วนนี้จะลดลง หากผู้ผลิตสามารถลด Carbon Intensity ที่เกิดจากการผลิตเหล็กได้เพิ่มขึ้น

สำหรับญี่ปุ่นได้มีการกำหนดมาตรฐานการคำนวณอายุการใช้งานขั้นต่ำของเหล็ก เพื่อนำเหล็กกลับมาใช้ซ้ำผ่านการรีไซเคิล รวมทั้งได้มีการจัดตั้งกองทุนโดยรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับออก Green bond เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมที่มีการปล่อย GHG ปริมาณมากในการระดมทุนเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีสำหรับลดการปล่อย GHG ซึ่งเหล็กเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมนำร่องที่สำคัญ ที่จะได้รับการสนับสนุนดังกล่าว ทั้งนี้สหพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าแห่งญี่ปุ่น 
รวมถึงผู้ผลิตเหล็กในญี่ปุ่นหลายราย เช่น Nippon Steel, Kobe Steel, JFE Steel มีการตั้งเป้าหมายลดการปล่อย GHG ลง 30%-40% เทียบกับปี 2013 ให้ได้ภายในปี 2030 และจะมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-neutral) ให้ได้ภายในปี 2050

นอกจากนี้ ประเทศพัฒนาแล้ว เช่น เยอรมนี นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ก็มุ่งเน้นการผลิต Green steel ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยได้เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนในการผลิตพลังงานสะอาด และนำเทคนิคแบบ Direct Reduced Iron (DRI) ให้เข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในกระบวนการผลิตเหล็กรวมกับเตาหลอม EAF เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง
ในการบรรลุเป้าหมายลดการใช้พลังงานจากถ่านหิน และลดการปล่อย GHG

EIC มอง CBAM เป็นจุดเริ่มต้นของความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมเหล็ก จากต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ผู้นำเข้าเหล็กใน EU ต้องรับภาระตั้งแต่ปี 2026 กดดันให้ผู้ผลิตเหล็กที่ส่งออกไปยัง EU ต้องเร่งลด Carbon intensity เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน จากการที่ EU กำหนดมาตรการ CBAM โดยเหล็กเป็นหนึ่งในสินค้าลำดับต้น ๆ ที่จะต้องปรับตัวรับมือต่อมาตรการดังกล่าว จึงส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตเหล็กที่ส่งออกไปยัง EU อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ในระยะใกล้ คือปี 2023-2025 จะยังเป็นการกำหนดให้ผู้ผลิตเหล็กนอก EU รายงานการปล่อย GHG แต่ก็จะมีการดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2026 เป็นต้นไป ที่ผู้นำเข้าเหล็กใน EU จะต้องซื้อ CBAM Certificates ซึ่งเป็นต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ผู้นำเข้าเหล็กใน EU ต้องรับภาระ และจะส่งผลให้ต้นทุนในการนำเข้าเหล็กปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้ผู้ผลิตเหล็กหลายประเทศที่ส่งออกเหล็กไปยัง EU เช่น จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ต้องเร่งปรับกระบวนการผลิตเหล็กให้ลดการปล่อย GHG เพื่อยังคงรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันส่งออกเหล็กไปยังตลาด EU ไว้ได้

ทั้งนี้ในปี 2021 ไทยส่งออกสินค้าเหล็กไปยัง EU คิดเป็นสัดส่วน 6% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเหล็กโดยรวม สำหรับการส่งออกเหล็กไทยไป EU อาจยังไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ CBAM มากนักในระยะสั้น เนื่องจากสัดส่วนมูลค่าสินค้าเหล็กที่ไทยส่งออกไปยัง EU อยู่ที่เพียง 0.04% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดของไทยโดยรวม ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้า หากอุตสาหกรรมเหล็กไทยเติบโต มีการยกระดับไปสู่การผลิตเหล็กคุณภาพสูงเพื่อส่งออกได้มากขึ้น อาจจะส่งผลให้ EU มีโอกาสกลายมาเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกเหล็กที่สำคัญของไทย โดยหากกระบวนการผลิตเหล็กไทยยังไม่สามารถลดการปล่อย GHGได้ ก็จะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันในการส่งออกเหล็กไปยังตลาด EU และนำมาสู่การสูญเสียโอกาสทางการค้าในอนาคต

นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังพิจารณาใช้มาตรการ CBAM สำหรับอุตสาหกรรมที่มีระดับ Carbon intensity ที่ปล่อยออกมาต่อผลผลิต 1 ตัน สูง ได้แก่ ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน อะลูมิเนียม เหล็ก ซีเมนต์ ปุ๋ย กระดาษ และเอทานอล ซึ่งในปี 2024 ผู้ผลิตและผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าวในสหรัฐอเมริกา จะต้องเสียภาษีในส่วนนี้ และในปี 2026 จะขยายการบังคับใช้มาตรการไปสู่สินค้าขั้นสุดท้ายที่มีวัตถุดิบซึ่งมี Carbon intensity สูงตั้งแต่ 226 กิโลกรัม และลดลงเหลือ 100 กิโลกรัมในปี 2028 ซึ่งจะเห็นได้ว่าเหล็กเป็น 1 ในสินค้าที่มี Carbon intensity สูงและเข้าข่ายการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวเป็นกลุ่มแรก ทั้งนี้ในปี 2021 ไทยส่งออกสินค้าเหล็กไปสหรัฐอเมริกามีมูลค่า 44,815 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 19% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเหล็กของไทยโดยรวม โดยสหรัฐอเมริกาเป็น ปลายทางการส่งออกเหล็กอันดับ 2 ของไทย รองจากภูมิภาคอาเซียน ส่งผลให้ผู้ผลิตเหล็กไทยที่ส่งออกเหล็กไปยังสหรัฐอเมริกาจะต้องปรับตัวรับมือต่อมาตรการต่าง ๆ ที่สหรัฐอเมริกาอาจมีการบังคับใช้ในอนาคตด้วยเช่นกัน

การผลิตเหล็กไทย ไปต่ออย่างไรในยุค Net zero?

นัยสำคัญของ ESG ต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย E : Environment คือ การลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างการใช้น้ำในปริมาณมากสำหรับหล่อเย็น รวมถึงการลดมลภาวะที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตเหล็ก เช่น ฝุ่น GHG S : Social คือ การป้องกันไม่ไห้เกิดผลกระทบต่อสังคม และประชากรในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานผลิตเหล็ก โดยจะต้องมีระดับเสียง แหล่งน้ำที่สะอาด และมาตรฐานคุณภาพน้ำ ที่เหมาะสม
อันเป็นสิทธิที่สังคมพึงได้รับ รวมถึงการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้พนักงานในโรงงานเหล็ก G : Governance คือ การบริหารจัดการธุรกิจ รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตเหล็กที่เป็นCarbon-neutral steel เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานความปลอดภัย ตลอดจนการดำเนินงานให้สามารถตรวจสอบได้ ทั้งความโปร่งใสขององค์กร และมาตรฐานอุตสาหกรรม ประเด็นที่มีผลกระทบมาก และมีความเร่งด่วนสำหรับอุตสาหกรรมเหล็กไทย คือ ด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะมลภาวะที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตเหล็ก

EIC มองว่า การผลิตเหล็กยังเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของไทย โดยท่ามกลางกระแส Net zero ทางออกของอุตสาหกรรมเหล็กไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการผลิต เพื่อลด Carbon intensity ของผลิตภัณฑ์ แม้การผลิตเหล็กของไทยจะเป็นการผลิตเหล็กกลางน้ำ และปลายน้ำ แต่กระบวนการผลิตก็ยังคงสร้างมลภาวะ โดยหากประเทศไทยจะลดการปล่อย GHG จากอุตสาหกรรมเหล็ก ด้วยการลดการผลิตเหล็กในประเทศลง และหันไปพึ่งพาเหล็กนำเข้ามากขึ้น จะส่งผลกระทบในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตเหล็กในประเทศที่จะยิ่งมีกำลังการผลิตเหลือมากขึ้น จากปัจจุบันที่อัตราการใช้กำลังการผลิตยังอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้ง การพึ่งพาการนำเข้าเหล็กในสัดส่วนสูงย่อมก่อให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นต่ออุตสาหกรรมที่มีการใช้เหล็กปริมาณมากตามไปด้วย โดยเฉพาะในภาคก่อสร้าง และภาคการผลิตรถยนต์ ทั้งด้านซัพพลายเหล็กที่อาจขาดแคลน จนทำให้การก่อสร้างและการผลิตรถยนต์หยุดชะงัก รวมถึงด้านราคาเหล็กนำเข้าที่มีความผันผวน จนทำให้ยากต่อการควบคุมต้นทุนการก่อสร้าง และการผลิตรถยนต์

ปัจจุบันผู้ผลิตเหล็กไทยหันมาใช้เตาหลอม EAF เพื่อให้การผลิตเหล็กเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีประเภทนี้ยังมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ราคาเหล็กสูงขึ้น และแข่งขันกับเหล็กนำเข้าได้ยากตามไปด้วย จึงทำให้การเปลี่ยนมาใช้เตาหลอม EAF ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่มีความพร้อมทางด้านเงินทุน ขณะที่การรีไซเคิลเหล็กก็เป็นทางเลือกที่ส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของทรัพยากรที่ใช้แล้วให้สามารถกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใหม่ได้ แต่ยังคงไม่เพียงพอต่อปริมาณความต้องการใช้เหล็กในประเทศที่ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ตามการพัฒนา และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

EIC มองว่า อีกหนึ่งทางออกของการผลิตเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คือ การเปลี่ยน ปรับปรุงเทคโนโลยี และเทคนิคการผลิต โดยเตาหลอม EAF จะช่วยลดอุปสรรคจากการหาเศษเหล็กที่มีคุณภาพ ทำให้สามารถรีไซเคิลเศษเหล็กที่มีคุณภาพแตกต่างกันในปริมาณมากขึ้น เนื่องจากเตาระบบดังกล่าวมีความสามารถในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เจือปนในเศษเหล็กได้ดีกว่า ซึ่งจะช่วยลด Carbon intensity จาก Value chain ของอุตสาหกรรมได้ เนื่องจากเตาหลอม EAF ใช้พลังงานน้อยกว่าเตาหลอมระบบ IF ซึ่งจะช่วยลดภาระต้นทุนด้านพลังงานหากอยู่ในภาวะที่ราคาพลังงานแพง นอกจากนี้การใช้เหล็กรีไซเคิลก็จะช่วยลดการปล่อย GHG ที่เกิดจากการผลิตเหล็กที่ต้นน้ำ และการขนส่งเหล็กเพื่อนำเข้ามา
ในประเทศอีกด้วย

ปัจจุบัน ในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลกนำโดยประเทศในแถบยุโรป กำลังพัฒนา Green hydrogen เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบเชื้อเพลิงสะอาดทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่จะช่วยให้การปล่อย GHG ในภาคอุตสาหกรรมลดลงอย่างมากแม้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวจะยังมีต้นทุนที่สูง ไม่คุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ และอาจยังไม่เหมาะกับบริบทและความพร้อมของประเทศไทย แต่เทคโนโลยีดังกล่าวมีแนวโน้มต้นทุนที่ถูกลงในอนาคต และจะเป็นกุญแจสำคัญในการมุ่งสู่ Net zero ซึ่งไทยควรติดตามการพัฒนาอุตสาหกรรมไฮโดรเจนอย่างใกล้ชิด โดยเป็นการนำองค์ความรู้ของเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศ เพื่อจัดทำแผนการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีในอนาคต ซึ่งจะนำมาสู่โอกาสในการลดการปล่อย GHG สำหรับการผลิตเหล็กได้มากในระยะข้างหน้า

ทั้งนี้แนวโน้มการลดการปล่อย GHG ตลอด Supply chain ทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก ของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีเหล็กเป็นส่วนประกอบ เช่น การก่อสร้างอาคารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มี Low carbon footptint ไปตามเทรนด์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรปที่มีการคำนึงถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศอย่างรุนแรง และมีการนำเข้าเหล็กคุณภาพสูงเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และอากาศยาน เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการที่สามารถปรับกลยุทธ์ลดการปล่อย GHG ได้ สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งใน Supply chain ยกตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำอย่าง Volvo และ Mercedes-Benz ที่ปัจจุบันมีความต้องการสร้างพาร์ทเนอร์กับผู้ผลิตเหล็กคุณภาพสูง เพื่อจัดซื้อ Carbon-neutral steel หรือ Fossil-free steel แล้ว โดยมีผู้ผลิตเหล็กชั้นนำ ได้แก่ SSAB จากสวีเดน ที่สามารถซัพพลายเหล็กที่มีคุณสมบัติดังกล่าวได้ซึ่งก่อให้เกิดการขยายโอกาสทางธุรกิจใน Net zero carbon supply chain ตามมา

EIC มองว่าแนวโน้มการลดการปล่อย GHG ตลอด Supply chain ดังกล่าว เป็นแรงกดดันให้อุตสาหกรรมเหล็กไทยต้องเร่งปรับกระบวนการผลิตเหล็กให้ลดการปล่อย GHG โดยหากผู้ผลิตเหล็กไม่ลงทุนปรับเปลี่ยนเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตก็จะต้องแบกรับต้นทุนการปล่อย GHG ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไปในอนาคต และส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันตามมา ประกอบกับผู้ผลิตเหล็กในประเทศต่าง ๆ ก็ทยอยปรับกระบวนการผลิตเหล็กให้ลดการปล่อย GHG แล้ว ซึ่งหากผู้ผลิตเหล็กไทยยังไม่ปรับกระบวนการผลิตดังกล่าว ก็จะนำมาสู่การสูญเสียโอกาสทางการค้าในอนาคต และทำให้เสียโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งใน Net zero carbon supply chain ของโลกได้

การส่งเสริมจากภาครัฐจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้อุตสาหกรรมเหล็กไทยสามารถลดการปล่อย GHG ได้มากขึ้น ข้อจำกัดของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการผลิตเหล็กให้ลดการปล่อย GHG อยู่ที่ต้นทุนเทคโนโลยี โดยเฉพาะเตาหลอม EAF ที่ยังมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น ภาครัฐจึงควรมีบทบาทสำคัญในการออกมาตรการส่งเสริมให้ผู้ผลิตเหล็ก ทั้งรายใหญ่ และ SMEs สามารถปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น เช่น ให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี สนับสนุนทางด้านการเงิน ยกเว้นภาษีนำเข้าแก่ผู้ประกอบการหากมีการลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักร ส่งเสริมกลไกการระดมทุนผ่าน Green bond หรือ Sustainability bond

ทั้งนี้ภาครัฐควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์ของการเป็น Green steel จากปริมาณความเข้มข้นของ GHG ที่ปล่อยออกมาจากการผลิตเหล็กให้ชัดเจน เช่น การกำหนด Carbon intensity ที่ถูกปล่อยออกมาต่อการผลิตเหล็ก 1 ตัน เพื่อให้มีมาตรฐานตัวชี้วัดสำหรับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเหล็กที่เป็น Green steel ที่ชัดเจน และสะดวกในการออกมาตรการส่งเสริมตามปริมาณการปล่อย GHG ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ รวมถึงสร้างความชัดเจนของคำจำกัดความของ Green steel ในไทย

นอกจากนี้ ภาครัฐอาจดำเนินมาตรการกระตุ้นการใช้เหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เช่น การส่งเสริมให้มีการใช้เหล็กจากผู้ประกอบการที่สามารถลดการปล่อย GHGในการจัดซื้อจัดจ้าง และโครงการก่อสร้างภาครัฐ การนำค่าใช้จ่ายในการซื้อเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการปล่อย GHG  ในระดับต่ำไปลดหย่อนภาษีนิติบุคคล และภาษีบุคคลธรรมดาสำหรับการก่อสร้างซ่อมแซมอาคาร และที่อยู่อาศัย หรือแม้กระทั่งการลดภาษีนิติบุคคลแก่ผู้ผลิตจากจากปริมาณ GHGที่ลดได้ โดยหากมีการใช้เหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแพร่หลายมากขึ้น ก็จะเป็นการจูงใจให้ผู้ผลิตเหล็กหันมาปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตเหล็กให้ลดการปล่อย GHG ได้ รวมถึงการส่งเสริมให้ผู้ผลิตเหล็กไทยสามารถผลิตเหล็กที่มีคุณภาพสูงก็จะสามารถเพิ่มความน่าสนใจ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการเป็นซัพพลายเออร์ให้กับอุตสาหกรรม Hi-tech ที่มีความต้องการใช้เหล็กคุณภาพสูง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของภาครัฐ

ทั้งนี้การดำเนินมาตรการต่าง ๆ ควรเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้เงินอุดหนุน (Subsidies) ที่อาจเข้าข่ายการอุดหนุน และนำมาสู่การร้องเรียนจากประเทศปลายทางการส่งออก แม้ว่าการส่งออกสินค้าเหล็กของไทยยังมีสัดส่วนไม่มากนักเมื่อเทียบกับการผลิตเพื่อใช้ในประเทศ และการส่งออกสินค้าหมวดอื่น ๆ แต่ก็อาจกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออกของผู้ประกอบการไทยได้ ดังเช่นกรณีที่ผู้ประกอบการเหล็กในสหรัฐอเมริกาได้กล่าวหารัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐของไทยว่ามีพฤติกรรมให้การอุดหนุนสินค้าตะปูเหล็กผ่านโครงการต่าง ๆ และส่งผลให้สหรัฐอเมริกาเปิดการไต่สวนมาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty : CVD) สินค้าตะปูเหล็กจากไทยอย่างไรก็ดี ผลการไต่สวนชั้นต้นระบุว่า สัดส่วนการให้การอุดหนุนในสินค้าตะปูเหล็กของไทยอยู่ในเกณฑ์ระดับต่ำมาก
จนเข้าข่ายว่าไม่มีการอุดหนุน

นอกจากการส่งเสริมจากภาครัฐแล้ว ความร่วมมือจากผู้ประกอบการก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้สามารถยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมได้ดีขึ้น โดยหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินการลดการปล่อย GHG สำหรับไทย คือ การจัดเก็บข้อมูลการปล่อย GHG ที่ควรมีความทันสมัย ละเอียด และสะท้อนค่าที่แท้จริงที่เกิดขึ้นในกิจกรรมการผลิตของอุตสาหกรรมเหล็กไทย ซึ่งต้องอาศัยการกำกับดูแล และการตรวจสอบอย่างจริงจังโดยหน่วยงานภาครัฐ ประกอบกับความร่วมมือในการให้ข้อมูลจากผู้ประกอบการ เพื่อให้มีฐานข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจุบัน และช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อย GHG ของอุตสาหกรรมเหล็ก รวมถึงกำหนดนโยบาย และมาตรการการปฏิบัติที่ชัดเจนมากขึ้น

หากเกิดความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการดำเนินมาตรการที่ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเหล็กของไทยสามารถลดการปล่อย GHG ได้ ก็จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อย GHG ตามที่ได้แสดงเจตนารมณ์ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ซึ่งปัจจุบันจะเห็นว่าในหลายประเทศต่างก็เริ่มดำเนินมาตรการในการปกป้องสิ่งแวดล้อมไม่ให้ถูกทำลายไปมากกว่าเดิม อย่างไรก็ดี กระบวนการดังกล่าวก็ยังมีการกำหนดช่วงการเปลี่ยนผ่านก่อนบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น ผู้ผลิตเหล็กไทยจึงควรใช้โอกาสในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ เร่งวางแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และยกระดับอุตสาหกรรมเหล็กไทยให้เดินทางสอดคล้องไปกับกระแส Net zero ทั้งนี้สำหรับผู้ผลิตเหล็กกลุ่ม SMEs การรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการระดมเงินทุน และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผู้ผลิตเหล็กกลุ่ม SMEs สามารถปรับตัว และดำเนินธุรกิจได้ท่ามกลางแรงกดดันของอุตสาหกรรมเหล็ก ที่ต้องปรับตัวให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

บทวิเคราะห์โดย…https://www.scbeic.com/th/detail/product/steel-230822

ผู้เขียนบทวิเคราะห์

นางสาววรรณโกมล สุภาชาติ  (wannakomol.supachart@scb.co.th) นักวิเคราะห์

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: Net Zero SCB EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ นางสาววรรณโกมล สุภาชาติ อุตสาหกรรมเหล็กไทย ไทยพาณิชย์

Continue Reading

Previous: สำนักงานสลากฯ พร้อมออกสลากสัญจร งวดวันที่ 1 ก.ย. 2565 นี้ ที่จ.นครนายก
Next: บัญชีกลางลบข้อครหา e-bidding

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 13 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 13 พ.ย. 68

13/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568

13/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 12 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 12 พ.ย. 68

12/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568

12/11/2025
20251111124705_6401 ครม.เห็นชอบปรับเพดานนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1 ล้านตัน ลดผลกระทบภาษีทรัมป์ 1 min read
  • HOT NEWS
  • NATIONAL

ครม.เห็นชอบปรับเพดานนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1 ล้านตัน ลดผลกระทบภาษีทรัมป์

11/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 11 พ.ย. 68 1 min read
  • HOT NEWS
  • NATIONAL

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 11 พ.ย. 68

11/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568

11/11/2025
GISTDA เตือน นนทบุรี-ปทุมฯ-กทม. เสี่ยงน้ำท่วมหนัก GISTDA เตือน นนทบุรี-ปทุมฯ-กทม. เสี่ยงน้ำท่วมหนัก 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

GISTDA เตือน นนทบุรี-ปทุมฯ-กทม. เสี่ยงน้ำท่วมหนัก

10/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 10 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 10 พ.ย. 68

10/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568

10/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568

09/11/2025
“บัญชีกลาง” เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกผู้ถือบัตรคนจน “บัญชีกลาง” เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกผู้ถือบัตรคนจน 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

“บัญชีกลาง” เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกผู้ถือบัตรคนจน

08/11/2025

China News

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม.

21/10/2025
LINEแชร์เลย! รถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดในโลก CR450 เริ่มการทดลองใช้งานก่อนเปิดให้บริการบนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของจีน โดยสามารถทำความเร็วได้สูงสุดต่อขบวนถึง 453 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หนังสือพิมพ์ไซแอนซ์แอนด์เทคโนโลยีเดลี (Science... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

13/11/2025
SME D Bank คิกออฟ ‘ศูนย์ฝ่าฟัน ดัน SMEs’ ปูพรมปลุกพลังเอสเอ็มอีทั่วประเทศ SME D Bank คิกออฟ ‘ศูนย์ฝ่าฟัน ดัน SMEs’ ปูพรมปลุกพลังเอสเอ็มอีทั่วประเทศ
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

SME D Bank คิกออฟ ‘ศูนย์ฝ่าฟัน ดัน SMEs’ ปูพรมปลุกพลังเอสเอ็มอีทั่วประเทศ

12/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

12/11/2025
กสิกรไทย จัดโปรแรง บ้านมือสองส่งท้ายปี Mega Sale ลดสูงสุด 60% กสิกรไทย จัดโปรแรง บ้านมือสองส่งท้ายปี Mega Sale ลดสูงสุด 60%
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

กสิกรไทย จัดโปรแรง บ้านมือสองส่งท้ายปี Mega Sale ลดสูงสุด 60%

12/11/2025
คลัง-ธปท. สานฝัน ผุดโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” แก้ไขหนี้เน่ารายย่อย คลัง-ธปท. สานฝัน ผุดโครงการ "ปิดหนี้ไว ไปต่อได้" แก้ไขหนี้เน่ารายย่อย
1 min read
  • HOT NEWS
  • MONEY MOVEMENT

คลัง-ธปท. สานฝัน ผุดโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” แก้ไขหนี้เน่ารายย่อย

11/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

SME D Bank คิกออฟ ‘ศูนย์ฝ่าฟัน ดัน SMEs’ ปูพรมปลุกพลังเอสเอ็มอีทั่วประเทศ

SME D Bank คิกออฟ ‘ศูนย์ฝ่าฟัน ดัน SMEs’ ปูพรมปลุกพลังเอสเอ็มอีทั่วประเทศ

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

กสิกรไทย จัดโปรแรง บ้านมือสองส่งท้ายปี Mega Sale ลดสูงสุด 60%

กสิกรไทย จัดโปรแรง บ้านมือสองส่งท้ายปี Mega Sale ลดสูงสุด 60%

คลัง-ธปท. สานฝัน ผุดโครงการ "ปิดหนี้ไว ไปต่อได้" แก้ไขหนี้เน่ารายย่อย

คลัง-ธปท. สานฝัน ผุดโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” แก้ไขหนี้เน่ารายย่อย

Energy Force

CKPower กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง CKPower กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

CKPower กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง

10/11/2025
LINEแชร์เลย! นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)... อ่านต่อ

Politics

581566039_122262985910070287_1216500644016142303_n ทบ.ประกาศความพร้อมปกป้องอธิปไตย กัมพูชา ยั่วยุต่อเนื่อง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

ทบ.ประกาศความพร้อมปกป้องอธิปไตย กัมพูชา ยั่วยุต่อเนื่อง

13/11/2025
1505265 ‘พีระพันธุ์’ เปิดวาระซ่อนเร้น! เขมรจ้องขยับ เปลี่ยนเขตแดนทางทะเล 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

‘พีระพันธุ์’ เปิดวาระซ่อนเร้น! เขมรจ้องขยับ เปลี่ยนเขตแดนทางทะเล

13/11/2025
581672305_816106381274859_4598203512177038154_n เปิดภาพ F-16 สแตนบาย 24 ชั่วโมง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

เปิดภาพ F-16 สแตนบาย 24 ชั่วโมง

12/11/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

“ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68 “ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

“ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68

05/11/2025
CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ย 7.25% เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • BUSINESS MOVEMENT

CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68

27/10/2025
คปภ. ลงพื้นที่กระบี่ ดันประกันภัยเชิงรุก “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน" คปภ. ลงพื้นที่กระบี่ ดันประกันภัยเชิงรุก “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน” 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

คปภ. ลงพื้นที่กระบี่ ดันประกันภัยเชิงรุก “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน”

24/10/2025
ออมสิน จัดใหญ่ “GSB SAVINGS FORUM 2025" โปรโมทวันออมแห่งชาติ ออมสิน จัดใหญ่ “GSB SAVINGS FORUM 2025″ โปรโมทวันออมแห่งชาติ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ออมสิน จัดใหญ่ “GSB SAVINGS FORUM 2025″ โปรโมทวันออมแห่งชาติ

22/10/2025

Recommend

รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่ รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่ 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่

30/10/2025
"คนละครึ่ง พลัส" วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง “คนละครึ่ง พลัส” วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“คนละครึ่ง พลัส” วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง

29/10/2025
ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต

25/10/2025
คนไทยลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว คนไทยลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

คนไทยลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว

20/10/2025

Photo Stories

กบข. กบข. ร่วมแชร์มุมมองการลงทุน ในงาน The 15th Annual Thailand Roundtable 1 min read
  • PHOTO STORIES

กบข. ร่วมแชร์มุมมองการลงทุน ในงาน The 15th Annual Thailand Roundtable

12/11/2025
กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025

07/11/2025
EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน

31/10/2025
BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

30/10/2025
IMG_4504 คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท. 1 min read
  • PHOTO STORIES

คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท.

30/10/2025
เมืองไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง 1 min read
  • PHOTO STORIES

เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง

28/10/2025
ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 1 min read
  • PHOTO STORIES

ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5

27/10/2025
ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิงรับทุนรวม 8.6 แสน ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิง รับทุนรวม 8.6 แสนบาท 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิง รับทุนรวม 8.6 แสนบาท

27/10/2025
BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาสจังหวัดชุมพร BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดชุมพร 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดชุมพร

27/10/2025
VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics 1 min read
  • PHOTO STORIES

VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics

22/10/2025
IMG_3579 EXIM BANK ต้อนรับดีบีเอส แบงค์ ลิมิเต็ด ฉลองความสำเร็จเงินกู้ร่วมดอลลาร์สหรัฐ 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK ต้อนรับดีบีเอส แบงค์ ลิมิเต็ด ฉลองความสำเร็จเงินกู้ร่วมดอลลาร์สหรัฐ

21/10/2025
กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568 กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568

20/10/2025
ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI

20/10/2025
CEO SAM คว้ารางวัลบุคคลตัวอย่าง ภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จาก มสวท. CEO SAM คว้ารางวัลบุคคลตัวอย่าง ภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จาก มสวท. 1 min read
  • PHOTO STORIES

CEO SAM คว้ารางวัลบุคคลตัวอย่าง ภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จาก มสวท.

20/10/2025
"เอกนิติ" ลงพื้นที่ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย “เอกนิติ” ลงพื้นที่ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย 1 min read
  • PHOTO STORIES

“เอกนิติ” ลงพื้นที่ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย

18/10/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM