ยสท. แจงเงินกู้ระยะสั้น เป็นไปตามแผนบริหารความเสี่ยงทางการเงิน ย้ำสถานะองค์กรยังมั่นคง
ผู้บริหาร ยสท. แจง เงินกู้ 1,500 ล้านบาท เป็นไปตามแผนบริหารความเสี่ยงทางการเงินขององค์กร ชี้ งบกระแสเงินสดสูงกว่าวงเงินกู้ระยะสั้นเสริมสภาพคล่อง และมีความสามารถนำเงินส่งรัฐไปพัฒนาประเทศ
ตามที่มีการนำเสนอข่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) จัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นเสริมสภาพคล่อง วงเงิน 1,500 ล้านบาท หลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง และน้ำมันขึ้นราคานั้น นายนพดล หาญธนสาร รักษาการแทนผู้ว่าการ ยสท. ชี้แจงว่า กรณีนี้ไม่ใช่การกู้เงินมาใช้ แต่เป็นเพียงการวางแผนเงินกู้ระยะสั้นเสริมสภาพคล่องตามมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินเท่านั้น ซึ่งทุกองค์กรจำเป็นต้องมีแผนนี้ไว้ สำหรับรองรับกับปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะ ยสท. ซึ่งเป็นองค์กรที่ใช้เงินทุนหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ยสท. ได้ใช้การวางแผนเงินกู้ระยะสั้น เสริมสภาพคล่อง ตามมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินขององค์กร ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 แล้ว และจนถึงปัจจุบันนี้ ยสท. ยังไม่เคยใช้เงินกู้เพื่อมาเสริมสภาพคล่องให้กับองค์กรแต่อย่างใด รักษาการแทนผู้ว่าการ ยสท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้งบกระแสเงินสด ของ ยสท. ณ วันที่ 16 ส.ค. 2565 ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาพคล่องในปัจจุบัน ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าระดับวงเงินกู้ระยะสั้นเสริมสภาพคล่อง 1,500 ล้านบาท อยู่มาก
จึงกล่าวได้ว่าสภาพคล่องทางการเงินของ ยสท. ในปัจจุบันนั้นมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ ยสท. ยังมีความสามารถในการนำส่งเงินให้รัฐ ทั้งในรูปแบบของกำไรจากผลประกอบการ ภาษีและกองทุนต่าง ๆ ตามกฎหมายได้ตามปกติ เพื่อให้รัฐสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการและการพัฒนาประเทศต่อไป