สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 ส.ค. 65
ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง สูงสุดที่ จ.เพชรบูรณ์ (206) จ.ขอนแก่น (171) และ จ.ตราด (170)
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 50,122 ล้าน ลบ.ม. (61%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 43,699 ล้าน ลบ.ม. (61%) เฝ้าระวังน้ำต่ำกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง บริเวณภาคเหนือ เฝ้าระวังน้ำสูงกว่าเกณฑ์บริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ แม่งัด กิ่วคอหมา กิ่วลม ป่าสักฯ อุบลรัตน์ น้ำพุง หนองปลาไหล บางพระ และบึงบระเพ็ด
กอนช. แจ้งเตือนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก บริเวณ จ. เชียงราย น่าน ตาก หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ สกลนคร อุบลราชธานี ระยอง จันทบุรี และตราด
กอนช. ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเนื่องจากช่วงวันที่ 20-22 ส.ค.65 ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และได้รับผลกระทบ ดังนี้
จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง บริเวณที่ลุ่มต่ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกร ใน 8 อำเภอได้แก่ อ.เมือง อ.วารินขำราบ อ. เดชอุดม อ.นาจะหลวย อ.น้ำยืน อ.ทุ่งศรีอุดม อ.น้ำขุ่น และ อ.นาเยีย กระทบการดำรงชีพ ได้แก่ อ.เมือง มีการตั้งจุดอพยพพักพิงชั่วคราว 4 จุด พื้นที่เกษตรน้ำท่วม 24,142 ไร่ ทางจังหวัดเข้าให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
1. ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย ณ จังหวัดอุบลราชธานี ระดมให้ความช่วยเหลือในพื้นที่
2. หน่วยงานและจิตอาสา ระดมให้ความช่วยเหลือจ.พระนครศรีอยุธยา เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ปล่อยน้ำที่ 1,500 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันมีน้ำล้นตลิ่งท่วมชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาแม่น้ำน้อย และลำคลองสาขา โดยน้ำไหลเข้าท่วม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอผักไห่ เสนา บางไทร บางบาล และบางปะหัน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 5,000 หลังคาเรือน ทางจังหวัดได้เพิ่มการป้องกันวัดและโบราณสถานที่สำคัญ เช่น พระตำหนักสิริยาลัย วัดไชยวัฒนาราม วัดธรรมมาราม รวมถึงพื้นที่เขตเกาะเมืองกรุงเก่า เขตเศรษฐกิจ เขตอุตสาหกรรม และพื้นที่เกษตรกร เช่น ข้าวรอบที่ 1 (ข้าวนาปี) ที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวช่วงต้นเดือนกันยายนนี้
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 21 ส.ค. 2565 ดังนี้
1. ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 30/2565 ลงวันที่ 19 ส.ค. 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 20 – 24 ส.ค. 2565 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ คาดการณ์จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 1,600 – 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาไหลมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา ปริมาณ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ในเกณฑ์ 1,900 – 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ตามปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนเพิ่มมากขึ้น อยู่ในเกณฑ์ 1,500 – 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 0.40 – 0.80 เมตร ในช่วงวันที่ 23 – 25 ส.ค. 2565 บริเวณชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
2. สถานการณ์อุทกภัย
จากสถานการณ์ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกําลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทําให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ในระหว่างวันที่ 15-20 สิงหาคม 2565 เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ 17 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 9 จังหวัด (อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น ชัยภูมิ และอุบลราชธานี) ดังนี้
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง มีพื้นที่น้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำรวม 6 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (อำเภอบางบาล บางปะหัน เสนา ผักไห่ และท่าเรือ) และ จังหวัดอ่างทอง (อำเภอป่าโมก) ปัจจุบันกรมชลประทานได้ระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา 1,500 ลบ.ม/วินาที
จังหวัดสุพรรณบุรี มีพื้นที่น้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภออู่ทอง อำเภอเมือง อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า คาดการณ์ว่าระดับน้ำในคลองโผงเผง และแม่น้ำน้อยจะลดลงตามปริมาณการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา
จังหวัดปราจีนบุรี มีพื้นที่น้ำน้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี ปัจจุบันคลองพระปรงและแม่น้ำปราจีนบุรียังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
จังหวัดสระแก้ว มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง ปัจจุบันระดับยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่น้ำน้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพนมสารคาม ปัจจุบันระดับน้ำในคลองระบายน้ำยังทรงตัว หากไม่มีปริมาณฝนตกหนักเพิ่มเติม คาดว่าระดับน้ำจะเริ่มลดระดับลง
จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมัญจาคีรี และอำเภอชุมแพ คาดว่า ภายใน 3-5 วัน หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติ
จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่น้ำน้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูเขียว ระดับน้ำในพื้นที่น้ำท่วมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีน้ำป่าจากเทือกเขาไหลลงสู่ลำน้ำเชิญ ปัจจุบันมีฝนในพื้นที่เล็กน้อย และสถานการณ์น้ำในลำน้ำที่จุดสถานีวัดน้ำ E.85 มีระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่น้ำน้ำท่วม 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวารินชำราบ อำเภอนาจะหลวย อำเภอเดชอุดม อำเภอนาเยีย อำเภอน้ำยืน และอำเภอเมือง คาดว่าสถานการณ์ จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 3-4 วัน