“เจ้าสัวเจริญ”เดินหน้า’วัน แบงค็อก’นำร่องเปิดโรงแรมหรู
โครงการ”วัน แบงค็อก”มูลค่า 1.2 แสนล.ของเจ้าสัวเจริญ เดินหน้าเต็มลูกสูบ ล่าสุด “ปณต สิริวัฒนภักดี”หมายมั่นปั้นให้เป็นแลนด์มาร์คที่ครบวงจรในระดับสากล ล่าสุดเซ็นสัญญากับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อบริหารส่วนของโรงแรม “เดอะริทซ์-คาร์ลตัน” มูลค่า 5,000 ล้านบาท ด้าน”ซู หลิน ซูน” ชี้เทรนด์ทั่วโลกโครงการมิกซ์ยูสกำลังมาแรง
นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการลงทุนโครงการ “วัน แบงค็อก” (One Bangkok) ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่า มีเป้าหมายที่จะพลิกโฉมพื้นที่ 104 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนพระราม4-วิทยุ ให้เป็นเมือง(แลนด์มาร์)แห่งความครบครัน เพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางของกรุงเทพฯและระดับสากล ที่จะดึงดูดบริษัททั้งในประเทศและบริษัทข้ามชาติชั้นนำจากต่างประเทศให้เข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรม ที่พักอาศัย พื้นที่ค้าปลีก และศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม คิดเป็นมูลค่าลงทุนประมาณ 1.2 แสนล้านบาท โดยขณะนี้ในส่วนของความชัดเจนโครงการแรก ได้เริ่มก่อสร้างอาคารแรก ซึ่งจะเป็นอาคารสูง 50 ชั้น อยู่มุนถนนวิทยุ ซึ่งจะเห็นพื้นที่สีเขียว(สวนลุม)ได้อย่างเต็มที่ ลักษณะอาคารจะมีความพิเศษตรงที่ ชั้น 1-25 จะเป็นในส่วนของโรงแรมหรู ล่าสุด ได้ลงนามสัญญากับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อบริหารโรงแรม ภายใต้แบรนด์ “เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน” ระดับ 6 ดาว จำนวน 259 ห้อง เฉพาะส่วนของโรงแรมจะมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ด้านราคาเข้าพักขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษา จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยจะเน้นลูกค้าต่างชาติในสัดส่วน 70% และลูกค้าไทย 30%
สำหรับในชั้นที่ 26 จนถึงชั้น 50 จะเป็นพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย คอนโดฯหรูระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ขนาด 2- 4 ห้องนอน พื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่ 130 ตารางเมตร(ตร.ม.) ต่อยูนิต จำนวน 110 ยูนิต โดยทางบริษัทจะดำเนินการบริหารเอง จะมีการเปิดตัวช่วงปลายในปี 2562 นี้ ด้านการก่อสร้างได้เริ่มดำเนินการไปเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา โดยงานเสาเข็มจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2562 ส่วนงานโครงสร้างใต้ดิน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการกำลังดำเนินการเช่นกัน และเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2566 นอกจากนี้จะมีการเปิดตัวอาคารอื่นๆ ในปีนี้ และคาดแล้วเสร็จทั้งโครงการปี 2568
นางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ วัน แบงค็อก กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองไทยขณะนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในไทย เพราะเป็นประเทศที่ฟื้นตัวเร็ว และด้วยศักยภาพในการเป็นผู้นำการท่องเที่ยว การลงทุนทางธุรกิจ เป็นประตูสู่กลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV)และเป็นศูนย์กลางการขนส่งของอาเซียน จึงมีมีศักภาพที่จะลงทุนต่อเนื่องในระยะยาว
สำหรับภาพรวมตลาดพื้นที่ย่านพระราม4 นั้น ในอนาคตจะมีโครงการมิกซ์ยูส อีกเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันโครงการ “วัน แบงค็อก” ก็เป็นการพัฒนาโครงการแบบผสมผสาน(มิกซ์ยูส) ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาในเมืองใหญ่ โดยในโครงการจะมีการร่วมพัฒนากับพันธมิตรหลายหลายจากต่างชาติ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้.