ลุ้น พ.ค.นี้ กลุ่ม HBIS โล๊ะผู้บริหาร TSTH
ราจีฟ เผย ขายหุ้น TSTH 70 % เสร็จสิ้น เดือน พ.ย.นี้ ส่วนคณะผู้บริหารจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ตั้งเป้ายอดขายปี 63 โต 5-10%
นายราจีฟ มังกัล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH กล่าวว่า ในเดือน พ.ค.นี้ คาดว่า การทำธุรกรรมการขายหุ้น TSTH จำนวน 70 % มูลค่า 4,520 ล้านบาท หรือ 0.79 บาทต่อหุ้นให้กับ กลุ่มบริษัท Handan Iron and Steel หรือ HBIS จากจีน จะเสร็จสิ้น
ส่วนหุ้นอีก 30 % เป็นสัดส่วนของ Tata Steel Global Holding หรือ TSGH จาก อินเดีย ซึ่งผู้ซื้อจะมีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทแทน T S Global Holhings Pte.Ltd. หรือ TSGH นอกจากนี้ ผู้ซื้อมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท (Mandatory Tender Offer) เพื่อซื้อหุ้นและหลักทรัพย์ทีเหลืออยู่ทั้งหมดของบริษัท อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กลุ่ม HBIS ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
สำหรับการขายหุ้นของ TSGH ในครั้งนี้ เนื่องจากมีแผนใช้เงินลงทุนประมาณ 12,000 ล้านเหรียญหสรัฐเพื่อขยายการลงทุนในอินเดีย ทั้งการซื้อกิจการและลงทุนใหม่ เนื่องจากตลาดในอินเดียมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน มีความต้องการใช้เหล็กประมาณ 100 ล้านตันต่อปี และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 300 ล้านตันต่อปีใน 12 -15 ปีหน้าตาม GDP ของอินเดีย
ส่วนผลการดำเนินงานงวดปีงบการเงิน2562 (เม.ย.61-มี.ค.62) บริษัทฯมีปริการขายลดลง5%เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมียอดขายสุทธิ 22,222 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 188 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติงบลงทุนปีนี้จำนวน 200 ล้านบาท ปรับปรุง และอัพเกรดเหล็กลวดให้มีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยบริษัทตั้งเป้าปริมาณการขายในงวดปี2563 (เม.ย.62-มี.ค.63) เติบโตขึ้น 5-10%จากปีก่อนที่มีปริมาณขาย 1.15 ล้านตัน รองรับความต้องการใช้เหล็กในประเทศที่คาดว่าจะโต 5-6% หากเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวดี