ตะลึง!! พบซื้อสลากดิจิทัลคนเดียว 3 พันฉบับ
บอร์ดรับทราบยอดขายสลากดิจิทัล 7.1 ล้านฉบับหมดภายในระยะเวลา 1 วัน 7 ชั่วโมง (งวด 1ส.ค.) ไม่สิ่งผิดปกติ แต่พบผู้ซื้อสลากรวดเดียว 3,000 ฉบับ หรือ 240,000 บาท ลุ้นรางวัลใหญ่ ส่วนสลาก 3 หลัก และ 6 หลัก ยังไม่มีเสียงคัดค้านจากประชาชน
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ด) กล่าวว่า ผลการจำหน่ายสลากดิจิทัล งวดวันที่ 1 ส.ค.ที่เริ่มขายวันแรก วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ใช้ระยะเวลาจำหน่ายเพียง 1 วัน 7 ชั่ว โมง สามารถจำหน่ายสลากดิจิทัลได้หมด 7.1 ล้านฉบับนั้น ผลการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยมีอัตราค่าเฉลี่ยซื้อคนละ 7 ฉบับ ในช่วง 3 ชั่วโมงแรก หลังจากอัตราการซื้อเริ่มลดลงเป็นคนละ 6 ฉบับ และ 5 ฉบับตามลำดับ
“จากการตรวจสอบไม่พบความผิดปกติ มีผู้ซื้อสลากสูงสุด 3,000 ฉบับ หรือ 240,000 บาท ในช่วงเวลาที่ขาย โดยในหนึ่งรอบการของซื้อสลากผ่านแอบฯ เป๋าตัง จะสามารถซื้อได้ 20 ฉบับเท่านั้น แสดงว่า ผู้ซื้อต้องใช้ระยะเวลาในการซื้อนานพอสมควร”
นอกจากนี้ ยังมีคนซื้อจำนวน 1,000 ฉบับ อีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้มากมายผิดปกติ นายลวรณ กล่าวและกล่าวว่า ในงวดวันที่ 16 ส.ค.นี้ ซึ่งจะขายสลากดิจิทัลวันแรก วันที่ 2 ส.ค. สำนักงานสลากฯ จะเพิ่มปริมาณสลากเป็น 9.1 ล้านฉบับ จากเดิมงวดที่แล้ว 7.1 ล้านฉบับ
นายลวรณ กล่าวว่า ผมพูดตั้งแต่แล้วว่า สลากดิจิทัลที่มีความสมดุลกับสลากใบ ควรมีสลากดิจิทัลขายในแอบฯ เป๋าตัง 7-10 วัน ดังนั้น ปริมาณสลากดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านฉบับหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่จะพิจารณาจากสลากในท้องตลาดกับสลากดิจิทัล ไม่ให้ราคาขายห่างกันมากนักคือ ฉบับละ 80 บาท
ส่วนประเด็นทางปฏิบัติ โดยเฉพาะเครื่องสแกน ที่ต้องสแกนสลากดิจิทัลทุกใบ ล่าสุดทางธนาคารกรุงไทย ให้เรายืมเพิ่มอีก 50 เครื่องเป็น 100 เครื่อง ซึ่งทำให้ระบบการทำงานของสลากดิจิทัลง่ายขึ้นอีกเยอะ
พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่าในวันที่ 22 ก.ค.65 สำนักงานสลากฯ จะประกาศชื่อผู้ที่ผ่านการคัดกรองเป็นผู้ค้าสลากฯ ที่ลงทะเบียนไว้ประมาณ 1 ล้านคน ให้เหลือเพียง 300,000 คน และวันที่ 10 ส.ค.นี้ จะสุ่มคัดออกมาเหลือ 70,000 คน เมื่อรวมกับผู้ค้าสลากรายเดิมอีกป 100,000 คน ผู้ค้าสลากฯ ที่ขึ้นทะเบียนจะมีอยู่ประมาณ 200,000 คน โดยจำนวนผู้ค้าสลากใหม่ 70,000 คนจะจัดสรรตามสัดส่วนของผู้ลงทะเบียนให้ครบทุกจังหวัดเช่น จังหวัดเลย มีคนลงทะเบียน 30,000 คน จะได้รับสิทธิเพียง 3,000 คน ซึ่งทั้ง 3,000 คนสามารถเดินเร่ขายได้ทั่วประเทศ โดยผู้ที่ขึ้นทะเบียนรอบนี้ จะได้รับโควตาจากการซื้อจองเพื่อขายในเดือนก.ย.2565
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ขณะนี้ ผลการทำประชาพิจารณาสลากแบบ 3 หลักและ 6 หลัก ยังดำเนินไม่เสร็จ แต่จากการไปรับฟังความเสียงประชาชนที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้มีเสียงคัดค้านและมั่นใจว่า สลากที่สำนักงานฯ ประกาศจะดำเนินการได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก