สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 ก.ค. 65
ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จ.ตราด (216 มม.)จ.น่าน (118 มม.) และ จ.พิษณุโลก (102 มม.)
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นส่วนแม่น้ำโขง มีแนวเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 44,222 ล้าน ลบ.ม. (54%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38,459 ล้าน ลบ.ม. (54%) เฝ้าระวังน้ำน้อย บริเวณภาคเหนือ (2 แห่ง)
พื้นที่แจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก – ดินถล่ม บริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน ตาก พะเยา อุตรดิตถ์พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ และตรัง
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ห่วงใยประชาชนในพื้นที่ 11 จังหวัดน้ำท่วม สั่งเร่งประสานทุกหน่วยงานช่วยเหลือทันที
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้พบว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบเกิดอุทกภัย จำนวน 11 จังหวัด รวม 20 อำเภอ 42 ตำบล 115 หมู่บ้าน ได้แก่ ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุรินทร์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร จันทบุรี และระนอง (ข้อมูลจาก ปภ. 15 ก.ค. 65) โดย กอนช. ได้การประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าพร้อมมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ เตรียมพร้อมรับมือทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว สำหรับขั้นตอนต่อไปจะเข้าสู่การฟื้นฟูเยียวยาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ปัจจุบันสถานการณ์ล่าสุดขณะนี้ในเขตพื้นที่จ.พิษณุโลก ขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์ มุกดาหาร จันทบุรี และระนอง สถานการณ์ได้คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ เหลือเพียง จ.เพชรบูรณ์ ที่ยังมีพื้นที่ประสบอุทกภัย และระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กอนช. จะติดตามประเมินสถานการณ์เพื่อประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังและลดผลกระทบให้ประชาชนในช่วงฤดูฝนนี้ในทุกพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 15 ก.ค. 2565 ดังนี้
1. ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 20/2565 ลงวันที่ 10 ก.ค. 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติแจ้งเฝ้าระวังน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงวันที่ 11 – 15 กรกฎาคม 2565 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยบริเวณภาคเหนือ ในพื้นที่จังหวัดพะเยา ลำปาง แพร่ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัดเลยหนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย สกลนคร ยโสธร ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี ภาคใต้ ในพื้นที่จังหวัดระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี และพังงา
2. ผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับ ฤดูฝน ปี 2565
กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบงานความพร้อมรับสถานการณ์ฝน จำนวน 5 จุด ได้แก่ 1. งานติดตั้งเครื่องสูบน้ำชนิดไฟฟ้า(เพิ่มเติม) บริเวณคลองนาซอง 2. งานรื้อย้ายสถานีสูบน้ำคลองห้วยขวางเดิม
3. งานปรับปรุงบ่อสูบน้ำถนนกำแพงเพชร 2 ช่วง กม. 11
4. งานก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.และสถานีสูบน้ำบริเวณคูนายกิม สาย 2 ตอนลงคลองเปรมประชากร และ
5. งานปรับปรุงถนนและระบบระบายน้ำบริเวณคูนายกิมสาย 1 และก่อสร้างบ่อสูบน้ำ ตอนลงคลองเปรมประชากร (2 ฝั่ง) ปัจจุบันอยู่ในระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2565
3. สภาพอากาศ
การคาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลงในขณะที่ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 18 – 20 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงอีก ทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อย
4. แหล่งน้ำทั่วประเทศ
แหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำ 44,222 ล้าน ลบ.ม. (54%) แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง ปริมาณน้ำ 38,459 ล้าน ลบ.ม. (54%) ขนาดกลาง 355 แห่ง ปริมาณน้ำ 3,291 ล้าน ลบ.ม. (60%) และขนาดเล็ก 139,894 แห่ง ปริมาณน้ำ 2,472 ล้าน ลบ.ม. (49%) โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำต่ำกว่าเกณฑ์เก็บกักต่ำสุด (Lower Rule Curve) ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแม่จาง และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์เก็บกักสูงสุด (Upper Rule Curve) ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนกิ่วคอหมา และเขื่อนน้ำพุง
5. สถานการณ์อุทกภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานสถานการณ์อุทกภัย มีพื้นที่เกิดอุทกภัย 11 จ. (ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุรินทร์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร จันทบุรี ระนอง) 20 อ. 42 ต. 115 ม. ประชาชนได้รับผลกระทบ 56 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 10 จ. ยังคงมีสถานการณ์ 1 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์