“บิ๊กตู่” ปลื้มไทยได้คืน “ครอบพระเศียรทองคำ”
นายกรัฐมนตรีชื่นชม ขอบคุณทุกภาคส่วน ทวง “ครอบพระเศียรทองคำ” โบราณวัตถุล้านนา คืนกลับมาสู่แผ่นดินไทยสำเร็จ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีชื่นชมและขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ช่วยกันทุ่มเททำงานอย่างหนัก พร้อมกับกล่าวขอบคุณสหรัฐอเมริกาที่ให้ความร่วมมือ จนสามารถส่งมอบโบราณวัตถุล้ำค่า คือ ครอบพระเศียรทองคำ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา กลับสู่ประเทศไทยได้เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับ ครอบพระเศียรทองคำนี้ เป็นเครื่องประดับพระเศียรพระพุทธรูปทำจากทองคำ 95 % ประกอบด้วยส่วนครอบพระเศียรกว้าง-ยาว 14 x 17.6 ซม. หนัก 12.7 กรัม และส่วนพระรัศมีสูง 12.7 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ซม. หนัก 29.9 กรัม ใช้เทคนิคดุนทองและตีทอง เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นโบราณวัตถุศิลปะล้านนา อายุราวพุทธศตวรรษที่ 20-21 ขณะนี้ กรมศิลปากรได้เก็บรักษาไว้ที่คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อการศึกษาและจะนำจัดแสดงในนิทรรศการต่อไป
นางสาวรัชดาฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2564 รัฐบาลสามารถติดตามโบราณวัตถุกลับไทยแล้ว ได้แก่ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว ที่ถูกขโมยไปนานเกือบ 60 ปี นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าเกี่ยวกับประติมากรรมสำริด โบราณคดีประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ถูกจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเดนเวอร์ ซึ่งมีแนวโน้มอาจได้กลับคืนประเทศไทยในลำดับถัดไป อย่างไรก็ตาม ไทยต้องให้ทางสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา ดำเนินการตามกฎหมายก่อน
นางสาวรัชดาฯ ยังกล่าวต่อว่า ปัจจุบันยังมีโบราณวัตถุของไทยที่ถูกนำออกนอกประเทศเป็นจำนวนมากทั้งที่จัดแสดงและเก็บรักษาภายในพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ อยู่ในความครอบครองของเอกชน หรือมูลนิธิเอกชน สถาบัน การศึกษา หรือซื้อขายผ่านสถาบันการประมูลโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ เป็นต้น นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้คณะทำงานขยายผลการทวงคืนไปยังประเทศอื่นๆที่มีข้อมูล รวมถึงในยุโรป โดยประสานงานผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อติดตามโบราณวัตถุของไทยที่อยู่ในต่างประเทศให้กลับมาเป็นสมบัติและมรดกวัฒนธรรมของชาติ