รัฐบาลไม่ห่วงหนี้สาธารณะไทยพุ่ง 60.58% ของจีดีพี
ครม. รับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะตามมาตรา 50 โดยหนี้ สาธารณะมีต่อจีดีพีอยู่ที่ 60.58% ภายใต้พ.ร.บ.วินัย การเงินการคลัง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงมติคณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณวันที่ 31 มีนาคม 2565 โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี (GDP) อยู่ที่ 60.58% ซึ่งยังภายใต้กรอบที่กำหนดไม่เกิน 70%
รายละเอียด กรอบการบริหารหนี้สาธารณะตามมารา 50 ดังนี้
1.สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) 60.58% กรอบที่กำหนดไม่เกิน 70% หนี้สาธารณะ 9.9 ล้านล้านบาท GDP 16.4 ล้านล้านบาท
2.สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ 26.77% กรอบที่กำหนด ไม่เกิน 35%
3.สัดส่วนหนี้ฯ ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด 1.79% กรอบที่กำหนด ไม่เกิน 10%
4.สัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ อยู่ที่ 0.07% กรอบที่กำหนด ไม่เกิน 5% โดยที่ภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศ 6,795 .69 ล้านบาท รายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ 10, 177,826. 46 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 รัฐบาลจึงมีความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการกู้เงิน ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ทำให้ปริมาณหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ระบบเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เป็นผลให้ช่วงเดือนมีนาคม นี้ มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศและทั่วโลก ที่มีแนวโน้มดีขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ทำให้ความสามารถในการจัดเก็บรายได้สูงขึ้นประกอบกับการบริหารความเสี่ยงหนี้ต่างประเทศที่มีต่อเนื่อง ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด และสัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้ของการส่งออกและสินค้าอยู่ในระดับต่ำ