สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 พ.ค. 65
ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักส่วนภาคใต้ฝนตกหนักมากบางพื้นที่
ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง สูงสุดที่ จ.แพร่ (185) จ.พระนครศรีอยุธยา (147) และ จ.กาญจนบุรี (78)
แม่น้ำสายหลัก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนแม่น้ำโขง มีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 45,411 ล้าน ลบ.ม. (55%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,588 ล้าน ลบ.ม. (55%) เฝ้าระวังน้ำน้อย จำนวน 4 แห่ง บริเวณภาคเหนือ (3 แห่ง) ภาคตะวันตก (1 แห่ง)
เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จังหวัดแพร่ (อ.เมืองฯ เด่นชัย วังชิ้น และร้องกวาง) อุตรดิตถ์ (อ.ท่าปลา) นครราชสีมา (อ.วังน้ำเขียว และด่านขุนทด) ศรีสะเกษ (อ.ภูสิงห์ และขุนหาญ) อุบลราชธานี (อ.บุณฑริก นาจะหลวย น้ำขุ่น และน้ำยืน) และปราจีนบุรี (อ.นาดี)
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ติตตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มลดลง
กอนช. ได้ติดตามสถานการณ์ในแม่น้ำโขง ตั้งแต่วันที่ 16-17 พฤษภาคม 2565 ระดับน้ำที่สถานีจิ่งหง (ประเทศจีน) ลดลงสะสม ประมาณ 1.03 ม. (วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 ลดลง 0.61 ม. และวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ลดลง 0.42 ม.) (หรือมีอัตราการระบายน้ำลดลงสะสม 880 ลบ.ม./วินาที) และได้คาดการณ์ประเมินระดับน้ำในแม่น้ำโขงจากสถานการณ์ดังกล่าว พบว่า
สถานีเชียงแสน จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 17- 19 พฤษภาคม 2565 ระดับน้ำลดลงสะสมประมาณ 0.6 – 0.8 ม.
สถานีเชียงคาน จ.เลย ลงมาถึง สถานีโขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในช่วงวันที่ 20 – 23 พฤษภาคม 2565 ระดับน้ำลดลงสะสมประมาณ0.5 – 0.6 ม.
กอนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดริมน้ำโขงประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่สัญจรทางน้ำและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง 8 จังหวัด ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกลัชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขงในช่วงเวลาดังกล่าว